สามคนพัวเมีย

สามคนพัวเมีย ผมกับวิไลทำงานอยู่บริษัทเดียวกัน ผมอายุ 31 ยัง โสด แต่ไม่สดครับส่วนวิไลจบตรีมาทำงานอยู่ในสายงานเดียว กับผมได้ 2 ปี เธออายุ 25 ปี ในส่วนตัวที่ผมแอบเฝ้าสังเกตเธอมาตลอด ไม่มีหนุ่ม ที่ไหนมาวอแวกับเธอเลย จะมีแต่เพื่อนของเธอมาตามรับตามส่ง ผมเคยถามเธอว่า "มีพ่อหวงห่วงขนาดนี้ ผู้ชายที่ไหนจะกล้าจีบ" วิไลหัวเราะบอก "ช่วยไม่ได้ ถ้าไม่กล้ฝ่าดงหนามหน่อไม้หวาน ก็ไม่ได้ ตุ้มกิน" ผมบอกตามตรง ผมแอบชอบวิไลอย่างเงียบๆ ในสาย ตาผม เธอสงบนิ่ง ไม่หลุกหลิกเจ้าชู้หรือเหลวแหลกเหมือนผู้ หญิงหลายคนที่บริษัท ทั้งโสดและไม่สด บางคนมีลูกมีผัวแล้วยังแรดจนผมระอาใจ ยิ่งพวกที่มีสามีแล้ว ทำเหมือนสามีเป็นวัวเป็นควาย กล้าหาญชาญชัยจนเกินงาม ผมเชื่อว่าพวกเธอต้องเคยมีการนอกใจสามีอย่างแน่ นอน เพราะอาการเจ้าชู้อย่างหื่นกระหายมีให้เห็นบ่อยๆ ผมเคยแอบได้ยินพวกเธอพูดแว่วๆเข้าหูผม อย่างอวด สรรพคุณ ว่าได้ฟันเด็กหนุ่มหล่อมาแล้วหลายคน แข่งกันฟัน อะไรทำนองนั้น แต่สำหรับวิไล เธอสงบนิ่ง ไม่ค่อยสุงสิงกับพวกเขา มากนัก ถ้านอกเรื่องก็จะหนี แต่ถ้าคุยแบบเป็นการเป็นงานก็ จะคุยกันได้นาน ผมชื่นชอบผู้หญิงแบบนี้ เรื่องพ่อผมไม่หนักใจ เพราะ ผมคิดว่า ถ้าเราจริงใจ ใช้ใจซื้อใจ พ่อเธอคงเห็นใจและเข้าใจ ผมเริ่มเอาใจใส่แสดงความห่วงใย และมีที่ท่าให้เธอรู้ ว่า ผมสนใจเธอ ดูวิไลก็ตอบสนองไมตรีผมดี ผมเคยนัดเธอกินข้าวมื้อค่ำ ในคืนวันเสาร์ แต่เธอบอก ต้องขออนุญาตจากป้ของเธอก่อน หลังจากวิไลโทรถามป้าเสร็จ เธอบอกว่าป้าอนุญาตแต่เธอขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ก่อน แล้วเจอกันที่ร้าน อาหารเลย ป้าเธอขับรถมาส่งด้วยครับ แต่ไม่ลงมา และถ้ากิน อาหารเสร็จ จะไปต่อไหน ไม่ว่า แต่มีข้อแม้ว่า จะกลับต้องโทร ให้ป้ามารับ ผมก็เริ่มตระหนัก นี่คือความมีโลกทัศน์กว้างไกล ไม ห้ามไม่หวง แต่ควบคุมพฤติกรรมได้อย่างชาญฉลาด สมควร เป็นพ่อตัวอย่างจริงๆ ผมกับวิไล เดินหน้ากับความรักได้อย่างสะดวก และ ราบรื่นมาก จนรู้กันไปทั่วทั้งบริษัท ทุกคนเห็นดีเห็นชอบ แม้แต่เจ้านายผม ทุกคนก็รอ คอยฟังข่าวดี ที่ผมกับวิไลจะลั่นระฆังวิวาห์ ผมเคยไปเที่ยวที่บ้านของวิไล เธออยู่กับป้าเธอ 2 คน วิไลบอกแม่เธอแยกทางกับป้ ไปมีพ่อใหม่ เธอเลยตัดสินใจ ขออยู่กับป้า ผมอยู่ที่บ้านวิไลได้ดึกดื่นแค่ไหนก็ได้ ถึงกับเคยนอน ค้างบ้านวิไลเลย ป้ของวิไลไม่ว่าอะไร แถมจัดห้องให้นอนอีก ต่างหาก ก็ห้องวิไลนั่นแหละ ส่วนวิไลไปนอนห้องป่า ก็เรียกว่าถ้อยที่ถ้อยอาศัยกัน ความสนิทสนมกันเช่นนี้ ถือว่าสุดๆ ว่าที่ลูกเขยอย่าง ผมสามารถเข้านอกออกใน แถมนอนค้างได้ ก็ไม่ต้องคิดว่าจะ ไม่สมหวังแล้ว เพราะทุกคนยอมรับ ทั้งป้าและวิไล และวันหนึ่ง ผมตัดสินใจพูดกับป้าของวิไล เรื่องขอ แต่งงานกับวิไลด้วยตัวเองก่อน ถ้าป้ตกลง ผมก็จะให้ผู้ใหญ่ มาทำพิธีอย่างถูกต้อง ป๋หัวเราะตบบ่าผมบอก ไม่ต้องทำพิรงพิธีอะไร ถ้ารัก กันชอบกันจริงก็อยู่กินกันได้เลย เสียเงินทอง เปลืองเวลาเปล่าๆ ผมถึงอึ้งเลย คิดว่าป้พูดเล่น ผมพูดย้ำคำเดิม ป้าก็ ตอบคำเดิม เป็นไปได้ไงครับ ผมย้ำ ป้หัวเราะแล้วบอก "พูดจริงๆ ถ้าคิดว่ารักวิไลจริง ก็มาอยู่เป็นผัวเมียกัน เลย" ผมก็มึนกับคำพูดวันนั้น ผมคิดว่าป้าเพี้ยนแน่ๆ ยัง มาเล่าให้วิไลฟัง แต่ปรากฏว่าวิไลบอก "ถ้าป้าบอกอย่างนั้น ก็มาอยู่ด้วยกันเลยไม่มีปัญหานี่" ผมฟังแล้วยังไม่แน่ใจ ถามวิไลย้ำ วิไลก็ยื่นยัน ให้เอา เสื้อผ้าข้าวของมาอยู่กับเธอได้เลย ถ้ป้อนุญาต ผมก็กลับไปถามป้าอีกครั้ง ก็ได้รับคำตอบ "ป้าอนุญาต มาอยู่กินเป็นผัวเมียกันได้เลย ถ้าวิไล ตกลง" ผมก็กลับถามวิไลเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง วิไลก็ว่า "ถ้าป้าอนุญาต วิไลก็ยินดี" มันอะไรกันครับ โยนกันไป โยนกันมา ผมเลยบอกวิไล งั้นคืนนี้ผมเอาเสื้อผ้ามานอน อยู่กินกับวิไลเลยนะ วิไลก็บอก ได้เลย และคืนนั้น ผมก็มานอนร่วมห้องกับวิไลที่ห้องวิไล เป็น ไงเป็นกัน ป้ก็หัวเราะ บอกยินดี ผมสิจะบ้เอา เจออะไรแบบน เป็นไปได้ไงเนี่ย ดูป้าและวิไลไม่ตะขิดตะขวงใจอะไร ทำตัวกันเหมือน ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำเหมือนเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก ผมก็คิด อย่าง นี้ผมก็ได้เปรียบสิ ไม่ต้องขอ ไม่ต้องเสียเงินแต่ง หอบเสื้อผ้า มาอยู่กินนอนกับวิไลได้เลย คืนแรกไม่ต้องมีการส่งตัว หรือพิธีรีตองอะไร ป้าก็ มองดูผมกับวิไลเข้าห้อง ปิดประตูนอนกันเลยตอน 3 ทุ่ม ผมกับวิไลจะได้ร่วมรักกันครั้งแรก แม้ผมจะมีประสบการณ์มาบ้าง ถึงจะไม่มากก็ตาม แต ผมก็อดตื่นเต้นไม่ได้ ผมยังมีท่าที่ลังเลอยู่ ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง เพราะเห็น ว่าวิไลเป็นคนเรียบร้อย อยู่ในโอวาทป้ คงจะไม่ประสีประสา เรื่องแบบนี้ แต่ผมคิดผิด อยู่ๆวิไลก็ลุกขึ้นถอดชุดที่สวมออกจน หมด ไม่มีท่าที่เขินอายแต่อย่างใด เล่นเอาผมถึงกับตะลึง วา เธอจะกล้าขนาดนี้ ผมซะอีก กลับอาย ไม่กล้ามองเธอตรงๆ "ถอดชุดออกได้แล้วค่ะพี่ เราจะได้มีความสุขกัน" เสียงวิไลเร่งเร้าให้ผมรีบถอดชุด เมื่อผมหายตกตะลึง ก็ถอดชุดออก ผมเห็นวิไลจ้องมองที่เป้าผม รู้สึกอายเหมือนกัน แต่ผมพยายามทำตัวปกติ "ฮุย ยังไม่มีอารมณ์หรือคะ มา.... เดี๋ยววิไลช่วย" วิไลจับไอ้หนูผมลูบคลำเบๆ จนมันขยายตัวขึ้นมา เล็กน้อย เธอคงจะไม่ค่อยสบอารมณ์ ดันผมนอนลง แล้วใช้ ริมฝีปากครอบไปที่ไอ้หนูของผมวิไลใช้ปากได้เก่งพอสมควร ผมรู้สึกเสียวที่ส่วนปลาย ของไอ้หนู จนมันขยายตัวแข็งแกร่งเต็มที่ "ต้องอย่างนี้สิคะ" วิไลพูดอย่างพึงพอใจ ผมได้แต่เงียบ รอดูว่าเธอจะ ทำยังไงต่อ แล้วก็เป็นอย่างที่ผมคิด วิไลขึ้นมานั่งคร่อมบนร่างผม เธอจับไอ้หนูผมใส่เข้าไปในปากถ้ำของเธอ แล้วนั่งกดทับลงมา ผมอดแปลกใจไม่ได้ ทำไมวิไลถึงได้เร่าร้อนแบบนีวิไล ที่ผมคิดว่าเรียบร้อยสมเป็นกุลสตรี แต่กลับรู้งานในเรื่องบน เตียงขนาดนี้ แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ใจหนึ่งผมคิด ก็ดีเหมือนกัน ไม ต้องสอนกันมาก แถมทำให้ผมมีความสุขอีกต่างหาก ผมปล่อยให้วิไลโชว์ลีลาอย่างเต็มที่ ซึ่งเธอก็ทำได้ไม่ เลวเลย จังหวะการโยกคลึง บดสะโพกไปมา มีผ่อนหนักผ่อน เบา สร้างอารมณ์ให้ผมได้มากทีเดียว เวลาผ่านไปสักพัก วิไลเริ่มเหนื่อย จึงทิ้งตัวนอน ผม ไม่รอช้า พลิกตัวประกบทับร่างเธอทันที ถึงคราวผมเป็นฝ่าย โชว์บ้างแล้วเมื่อสอดใส่ไอ้หนูของผมเรียบร้อย ผมจับเธอยกขึ้น พาดที่ไหล่ผม เพื่อให้สะโพกเธอยกขึ้น จากนั้นผมก็เริ่มกระแทก ทันที ความสุขความเสียวได้เริ่มขึ้นแล้ว ผมใส่เต็มที่ วิไล เองก็ใช่ย่อย กอดรัดผมแน่น แถมร้องครวญครางเสียงดัง "อูย... ดีจริงๆ... แรงอีกหน่อยค่ะ... อา..." ถึงตรงนี้ผมไม่สนอะไรแล้ว อัดเต็มที่ จนรู้สึกว่าใกล้ ถึงสวรรค์ จึงกระซิบถามเธอ "วิไล... ใกล้หรือยัง..." "เกือบแล้วค่ะ แรงๆเลยค่ะ... จูย..." ไม่ต้องพูดอะไรให้เสียเวลา ผมกระหน่ำแทงรัวๆ จนถึง สวรรค์ไปพร้อมกับเธอ และแล้วเราก็เป็นผัวเมียกันอย่างสมยอมและสมบูรณ์ แต่ผมก็อดคิดไม่ได้ วิไลเก่งเรื่องเซ็กส์อย่างเหลือเชื่อ ไม่เหมือนตอนวางตัวตอนอยู่ที่บริษัทเลย ผมนอนคิดอะไรเพลิน จนเผลอหลับไป ผมนอนนานเท่าไหร่ไม่รู้ มาตกใจตื่นก็คว้าหาตัววิไล เธอไม่อยู่ ตรงที่วิไลนอนว่างเปล่า คิดว่าคงเช้าห้องน้ำมั้ง ผมรออยู่พักก็เงียบ ผมค่อยๆลุก เปิดประตูออกมา ลงชั้นล่าง หาทุกห้อง ก็ไม่มี ขึ้นมาชั้นบน คราวนี้ได้ยินเสียงร้องคราง เป็นเสียงของ วิไลนั่นเอง แต่มันดังออกมาจากห้องป้านี่ ผมเดินตรงไปหน้าประตู มันไม่ได้ปิดลงกลอน แง้ม เอาไว้ มีแสงภายในลอดออกมา ผมชะโงกดูเข้าไปตามร่อง อะไรกันนั่น เป็นไปได้ไง วิไลนอนเปลือยกายหงายอ้า ซ่า โดยมีป้ของวิไลกำลังทำกับวิไลด้วยร่างเปลือยเปล่า ผมผลักประตูเข้าไปเหมือนคนบ้า ป้และวิไลหันมา มองผมด้วยสายตารรรมดา แถมป้ยิ้มให้ และเอ่ยกับผมว่า "เข้ามาสิ" ผมยิ่งบ้าใหญ่ แต่ไม่อาจจะแสดงอะไรออกได้เลย ก็ ภาพยังคากันอยู่ ป้ากับวิไลร่วมเพศกัน ไม่มียางอาย ไม่มีความสำนึก อะไร แม้แต่ผมมายืนอยู่โทนโท่อย่างนี้ป้ก็ยังไม่ยอมหยุดกระทำ ยังคงทำต่อเนื่องอย่างออกรส ผมถามวิไล "วิไล ทำไมเป็นแบบนี้"ป้าหยุดกิจกรรม แล้วหันมาพูดกับผม "นี่เธอคงคิดว่าปกับวิไลเป็นพ่อลูกกันหรือ ความจริง ป้ากับวิไลเป็นผัวเมียกันนะ แต่ป้าอนุญาตให้วิไลมีเธอเพิ่มอีก คนได้ โดยเอามาอยู่ด้วยกัน ก็ถือว่ามาช่วยกันสร้างความสุขให้ กับวิไลดีกว่า" ผมเหมือนถูกค้อนกระหน่ำหัว มีเรื่องอย่างนี้ในโลก ใบนี้ด้วย ผมยื่นอึ้ง ตะลึง "พี่ มานี่เถอะ มานอนด้วยกัน อย่าคิดมาก ถ้ารักวิไล เรา 3 คนก็อยู่ร่วมกันได้ ป้เองไม่ค่อยไหว จึงอนุญาตให้พี่มา อยู่ร่วมด้วยช่วยกัน" ผมเหมือนถูกมนต์เสน่ห์สะกด มันหมดความคิดที่ดี งามเลย ผมตัดสินใจประชดชีวิต เดินไปหาวิไล ไม่อาย ไม่คิด อะไร ปลดกางเกงนอนได้ ไม่เกรงใจป้อีกแล้ว ผมโหมตะลุยใส่วิไล ทั้งที่ป้ก็เปลือยกายนั่งอยู่ข้าง ตัววิไล แต่เหลือเชื่อ มันกลายเป็นความตื่นเต้น เร้าใจ มีพลัง อย่างมหาศาล กลายเป็นผมกับป้าช่วยกันรุมขยำขยี้วิไล คล้ายประชด และชิงดีชิงเด่นกันระหว่างผมกับป้า ทว่าวิไลกลับมีความสุข ร้องโหยหวนอย่างสะใจ ปา เองก็ดูมีพลัง ไม่ยอมแพ้ผม เกทับบัฟแหลกทั้งแจกทั้งแถมวิไล ก็สู้ไม่ถอย ไม่บ่น ไม่ยอมแพ้ ทั้ง 2 ชายผลัดกันอยู่อย่างนั้นจนเช้าดีที่เป็นวันอาทิตย์ นอนสลบกันอย่างนั้น ยันบ่ายเลย ผมถูกปลุกลุกจากวิไล ทั้งผมและป้า วิไลตื่นก่อน จัด อาหารชุด กาแฟ ขนม ปัง หมูแฮม ไข่ดาว โดยเฉพาะไข่ลวก กับแบรนด์ซุปไก่คนละ 1 ขวด เหมือนยอมรับโดยปริยาย เรื่องเมื่อคืน โดยไม่ต้อง พูดเท้าความหลัง หรือมาตีความอะไรกัน เมื่อมันรู้กันโดยปริยาย โตๆกันแล้ว แค่นี้ก็ทะลุปรุโปร่ง ว่ามันคืออะไร แต่ผมเองยังเหมือนค้อนปอนด์ทุบหัว ตั้งใจอยากได้ วิไลมาเป็นเมียจริงๆ และไม่เคยเอะใจเลย ว่าป้าที่ผมเข้าใจว่า เป็นพ่อของวิไล ไหนเลยจะกลายเป็นผัวได้ และผัวอะไร ที่ยอมให้เมียมีผัวน้อยด้วยความเต็มใจ เหลือเชื่อที่จะไปพูดไปบอกใครให้เชื่อ ผมกลายเป็นตกกะได พลอยโจน เมื่ออยู่ในสภาพนี้ผมกลายเป็นผัวน้อย ก็ตกลงกัน 3 คนผัวเมีย ผม กับวิไลทำเป็นผัวเมียเมื่ออยู่ต่อหน้าสังคม ป้าก็แสดงตัวเป็นพ่อ ได้อย่างแนบเนียน แต่พออยู่ในบ้าน เราทั้ง 3 คนกลับกลาย เป็นผัวน้อยผัวหลวงกัน แต่ก็อยู่กันอย่างมีความสุข และทำใจกันได้ โดยเฉพาะวิไลที่พูดเสมอว่ารักป้และผมเท่าๆกัน ขาด คนใดคนหนึ่งไม่ได้ เราอยู่กันอย่างมีความสุขมาก และสุดแต่วิไลจะทำ หรือต้องการอย่างไร แต่โดยมาก เราจะร่วมมือร่วมใจกัน มัน ได้อารมณ์ ได้พลัง ได้ความมันส์ มากกว่าเรากระทำกัน 2 คน มันเหมือนขาดอะไร ไม่ถึงสำเร็จ แบบที่เราผสมผสานกัน 3 คน ครับ ทุกวันนี้เรายังอยู่ด้วยกันดี มีความรักและมี ความเป็นไปอย่างมีคุณค่า มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ไม่เกิดกับ ใครก็จะไม่เข้าใจครับ..