ประสบการณ์เสียว18+

เมียท่านประธาน ตอน 4

"เชื่อแม่นะลูก ไปเปิดหูเปิดตา ชีวิตจะได้ กลับมาสดชื่นสดใส่ไงล่ะ" หล่อนไม่อยากไปไหนเลย แต่เพราะเกรงว่าแม่ จะเสียน้ำใจ หล่อนจึงต้องยอมตกลง "รัญไปด้วยก็ได้ค่ะแม่" "ดีมากลูก แต่งตัวสวยๆ นะ บางที ลูกอาจจะ เจอเจ้ชายคนที่ลูกเห็นแล้วใจสั่นในงานเลี้ยงนี้ก็ไต้นะ ใครจะรู้จริงไหม" หล่อนรู้ดีว่แม่พูดเล่น แต่ไม่รู้ทำไมสมองถึงได้ ผุดภาพของผู้ชายหนตาคมสันคนนั้นขึ้นมา แม้ว่า หล่อนจะไม่มีโอกาสมองเห็นตวงตาของเชา แต่หล่อนก็ คาดเดาได้ไม่ยากว่เขาจะต้องมีดวงตาที่สวยงามไม่ ต่างจากใบหนแน่นอน บ้าจริง ทำไมหล่อนจะต้องคิดถึงผู้ชายที่ฉวย โอกาสกับผู้หญิงเมาคนนั้นด้วย แม้จะพยายามหมปรามความคิดของตัวเอง ยังไง แต่ร่างทายก็ยังโหยหาสัมผัสร้อนรุ่มของผู้ชายคน นั้นอยู่ดี หล่อนลืมสัมผัสของเขาไม่ได้... สัมผัสจากปาก... ปลายนิ้ว.. ปลายสิ้น... และ... ตรงนั้นของเขา...! โอ้ พระเจ้า! ทำไมแค่คิดถึงยามที่เขาสอดใส่ ความใหญ่ยาวเข้ามาในกาย ช่องท้องจะต้องร้อนรุ่ม แบบนี้ด้วย แล้วที่เป้ากางเกงชั้นในก็เริ่มแฉะ "เป็นอะไรไปหรือเปลรัญ หน้าแดงๆ" หล่อนต้องกราบขอบคุณแม่เลยที่เดียว ที่ช่วย ทำให้หล่อนหลุดออกจากไฟสวาทของผู้ชายนิรนามคน นั้นได้ชั่วขณะ"ปะ... เปล่าค่ะแม่" "เปล่าก็ดีแล้ว งั้นกินช้วต่อเกอะ" หล่อนกับแม่กินข้าวกันตามลำพังสองคนแม่ลูก แทบทุกวัน เพราะพ่อที่ทำงานเป็นคนขับรถของเจ้าของ บริษัทใหญ่กลับไม่เป็นเวลา "เอ๊ะ เสียงใครมากดกริ่งน่ะ" แม่ของหล่อนลุกขึ้นยืน และกำลังจะลงไปดูว่า ใครมาทีหนรั้วบ้าน แต่หล่อนอาสาเสียก่อน "แม่กินข้าวต่อถอะค่ะ เดี๋ยวรัญไปตูให้เองจ้ะ" "เอางั้นเหรอรัญ" "จ้ะแม่ รอแปบนะคะ เดี๋ยวรัญมาค่ะ" แล้วหล่อนก็ลุกเดินลงมายังหน้ำรั้วบ้าน ร่างสูง ของผู้ชายคุ้นตาคนหนึ่งปรากฎตรงหน้า และก็ทำให้ หัวใจของหล่อนเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา "พี่กร..." "รัญ... พี่ขอโทษ..." หล่อนฝืนยิ้มให้กับวรากร ก่อนจะบอกเขา ออกไปด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง "อย่าขอโทษในสิ่งที่พี่ตั้งใจทำเลยค่ะ" "พี่..." "และพี่กรกับเพื่องก็ไม่ต้องลำบากใจด้วยนะคะ เพราะรัญ..." หล่อนสะอื้นเบาๆ "จะเป็นฝ่ายเดินออกมาเองค่ะ" "รัญ...หมายความว่า...." หล่อนซ้อนตามองคู่สนทนาที่ยังคงยืนอยู่นอกรั้ว บ้านด้วยสายตาที่ว่างเปล่า "รัญบอกคุณแม่แล้วค่ะว่รัญต้องการถอนหมั้น ที่กร" "แล้ว... รัญบอกไหมว่าเพราะอะไร"หล่อนมองผู้ชายใจยกี่ถึงขณะนี้เขาก็ยังเป็น ห่วงแต่ตัวเอง ไม่แม้แต่จะไยดีความรู้สึกของคนถูก กระทำเช่นหล่อน "พี่กรสบายใจเถอะค่ะ รัญไม่ได้บอกคุณแม่ ว่ารัญไปเห็นอะไรมา" หล่อนเห็นวรากรเป้าลมออกจากปากแรงๆ คล้ายกับโล่งอกโล่งใจ "พี่ขอบคุณรัญมากนะ ขอบคุณที่ไม่ประจานพี่ กับเพื่อง" หล่อนยิ้มเยาะ และเหนีบแนม แต่ดูเหมือนว่า วรากรจะไม่สะทกสะท้าน "รัญไม่ใช่คนใจร้ายอย่างนั้นหรอกค่ะ แม้ว่าคน อื่นจะใจรยกับรัญก็ตาม" พี่ชอบคุณรัญอีกครั้งนะครับ" จริงอย่างที่แม่พูด ดีแค่หนแล้วที่หล่อนรู้ความ จริงตอนนี้ หากรู้หลังจากแต่งงานกันไป หล่อนก็ยังไม่รู้ เลยว่าชีวิตจะหักเหไปทางไหน "พี่กรแค่กลับไปบอกคุณป้ ทำยังไงกีได้อย่าให้ คุณปพูดไม่ดีกับครอบครัวของรัญ...รัญขอแค่นี้แหละ คะ" "โอเค พี่จะพูดกับคุณแม่คุณพ่อให้เข้าใจเอง ขอบคุณรัญอีกครั้งนะครับ" หล่อนไม่ใต้ตอบ แต่ปรายตามองไปที่รถของวรา กรที่กระจกค้นคนนั่งถูกเลื่อนต่ำลงครึ่งบาน โชดิกา อดีตเพื่อนรักอยู่ในนั้น และมองมา แม้จะมองเห็นใน ระยะไกล แต่หล่อนก็เห็นรอยยิ้มแห่งผู้ชนะของโชติกา ได้อย่างชัดเจน เวลาจะช่วยคัดสรรว่าใครควรจะอยู่ต่อในชีวิต ของเรา มันคือความจริง"ขอให้พี่กรกับเพื่องมีความสุขมากๆ นะคะ ตอ จากนี้ไป เราไม่รู้จักกันอีกแล้ว" หล่อนเห็นวรากหนเจื่อนลงเล็กน้อย แต่เขาก็ ยอมรับแต่โดยดี ก่อนจะจากลาด้วยการเดินกลับไปที่ รถ และขับออกไป เมฆหมอกมืดดำค่อยๆ จางหายไปพร้อมกับ รถยนต์ของวราทร หล่อนจะเข้มแข็ง แม้ว่ามันจะทำได้ยากเย็นแค่ ไหนก็ตาม รัญชิดายิ้มให้กับตัวเอง ขณะเดินกลับเข้าไปใน บ้าน และไปที่โต๊ะอาหารที่แม่นั่งกินข้าวรออยู่ "ใครมาเหรอลูก" "ใครก็ไม่รู้ค่ะแม่ เขามาผิดบ้าน" หล่อนพยายามไม่แสดงพิรุธใดๆ ออกไป ขณะ กัมหนตักแกงเทโพหมูสามชั้นใส่ปาก "แต่แม่มองไกลๆ แล้วรู้สึกคุ้นๆ นะลูก" "เขาเป็นคนแปลกหน้ที่รัญไม่เคยรู้จักจริงๆ จัะ หล่อนย้ำ และก็ตักแกงเทโพใส่จานข้าวให้กับ มารดา "แม่กินข้าวต่อเถอะค่ะ เดี๋ยวกับข้วเย็นหมด" หล่อนรู้ดีว่แม่ยังคงแคลงใจ แต่ท่านก็เลือกที่ จะไม่ถามอะไรออกมาอีก ปราณชลไม่คยหงุดหงิดแบบนี้มาก่อน... มันบมากๆ ที่ในหัวที่เคยเต็มไปด้วยเรื่องงาน เรื่องธุรกิจ และเรื่องการซื้อขายเกร็งกำไร แต่ตอนนี้กลับมีรื่องของแม่มรีชี้มาคนนั้นแทรกซึมเข้ามาที่ละ นิด จนกระทั่งเต็มสมอง "ท่านประขานคะ คุณวิเชียร..." เสียงเลขาสาวหน้ำห้องตังมาตามสาย แต่เขา ตัดบทอย่างไม่ไยดี "ยกเลิกไปก่อน ตอนนี้ผมไม่สะดวก" "เอ่อ แต่ว่า..." "ทำตามที่ผมสั่ง" "ค่ะ ท่านประชาน" เลขาสาวตอบรับเสียงอ่อย ก่อนจะวางสายไป ในขณะที่เขายังคงหงุดหงิดตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ในยามนี้เขาจะมีกระจิตกระใจพูดคุยกับใครกัน ล่ะ ในเมื่อในทุกตารางนิของหัวสมองมีแต่เรื่องราว เมื่อคืนจนแน่นเอี๊ยด "เธอเป็นใครกันนะ แล้วฉันจะตามหาเธอได้ ยังไงกัน" แม้จะพยายามสุลัดความโหยหาที่มีต่อแม่สาว นิรนามคนนั้นอย่างสุดความสามารถ แต่จนแล้วจน รอดก็ทำไม่สำเร็จ สมองของเขายังหมกมุ่น วนเวียนอยู่ กับเรื่องบนเตียงที่เร่ำร้อนไม่จาง "บ้าซิบ" มื่อใหญ่ยกขึ้นลูบหนแรงๆ เมื่อเช้เขาสั่งให้คน ไปติดตามหาช่วของหล่อนที่หนสถานบันเทิงที่เขาหิ้ว หล่อนขึ้นมาบนรถ แต่ข้อมูลเกี่ยวกับหล่อนไม่มีเลย แม้แต่รูปถ่ายก็ไม่มี มีเพียงแค่รูปภาพในความทรงจำ ของเขาเท่านั้นที่ถ่ายทอดให้กับลูกน้องฟัง มันเหมือนงมเข็มในมหาสมุทรไม่มีผิด! แต่กระนั้นเขาก็อยากจะพบเจอหล่อนอีกครั้ง แค่อีกสักครั้ง แล้วเขาจะไม่ยอมให้หล่อนหนีหายไปอีก เต็ดขาดปราณขลฤอดถอนลมหายใจออกมา สบถใน ลำคอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะลุกขึ้นเดินไปหยุดที่หนต่ง กระจกบนชั้นสูงสุดของตึกระฬ เนื้อตัวของเขายังคงร้อนรุ่มเพราะไฟสวาทจาก แม่สาวนินามคนนั้นไม่จาง เขายังไม่อิ่ม... นี่แหละคือความจริงที่นกลัว... หายนะกำลสั่งคืบคลานเข้ามาหา มันคือคลื่น หายนะลูกใหญ่ที่ยากจะรับมือ เขาควรจะหยุดยั้งมันซะด้วยการหลีกหนี แต ความต้องกาที่มีต่อผู้หญิงคนนั้นมันรุนแรงจนเนื้อตัว หนุ่มปวดร้าวทรมาน เขาทำได้แค่วิ่งเข้าใส่เท่านั้น! ชายหนุ่มเดินกลับไปที่โต๊ะทำงาน หยิบโทรศัพท์ คือต่อสายหาลูกน้อง "ได้ขำวอะไรกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นบ้างไหม" "ยังไม่ได้อะไรเพิ่มเติมเลยครับท่านประธาน แต ว่าอีกชั่โมงหนึ่งผมจะเข้าไปขอดูกล้องวงจรปิตของผับ ครับ อาจจะมีภาพของผู้หญิงคนนั้นติดมาบ้าง" เขาก็ภาวนาให้เป็นอย่างนั้น แต่ความหวังมัน ลางเลือนเหลือเกิน เพราะรู้ดีว่าบรรยากาศในสถาน บันเทิงนั้นมันมืดสลัวแค่ใหน "โอเค แล้วแจ้งความคืบหน้ามาก็แล้วกัน" "ครับท่านประธาน" เขาตัดสายสนทนาจากลูกน้ง เดินอ้อมโต๊ะไป ทรุดนั่งลงบนเก้าอี้หนังแท้สีดำตัวใหญ่ วาง โทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะไม้ ก่อนจะหัวเราะเครียตๆ ออกมาอย่างเยาะหยันตัวเอง ตอนนี้เขาไม่ผิดแผกไปจากวัยรุ่นที่กำลังคลั่ง ฮอร์โมนเลยแม้แต่น้อย ตัณหาราคะที่เกิดขึ้นภายในกายทำให้เขา ปวดรวจนแทบจะระงับเอาไว้ไม่ไหวเขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่เคยที่จะต้อง รับมือกับความโหยหาเจียนคลั่งชนนี้เลย แต่ผู้หญิงคน นั้นทำให้เชารู้จักกับมัน บ้าซิบ! "ถ้าฉันเจอเธอเมื่อไหร่ ฉันจะชังเธอเอาไว้แต่ใน ห้องนอน บนเตียงของฉัน แม่มชี้เมา..." เขาครางออกมาให้กับความใคร่ที่กำลังกระหน่ำ อยู่ในอก มือใหญ่เลื่อนเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงาน ผ้าชิ้น น้อยซึ่งเจ้าหล่อนทิ้งเอาไว้ให้ดูต่างหน้ำถูกหยิบขึ้นมา สูดดมอีกครั้ง "หอม..." เขาพึมพำ และสูดดมกลิ่นอวัยระเพศหญิงที่ติด อยู่บนเป้ากางเกงชั้นในตัวง้อยซ้ำไปซ้ำมาราวกับคน เมากาว พอดอมดมได้ที่ก็แลบลิ้นออกมาเสีย.. เสียไส้ เป้คางงชั้นในนั้นราวกับมีคือร่องสาวน้ำเยิ้มที่ตัวเอง ลงลิ้นเมื่อคืน "อืมมม.. ฉันคิดถึงเธอจนจะบ้อยู่แล้ว อืมมม"เสียงของแม่เต็มไปด้วยความห่วงใย คงเพราะ หล่อนไม่ใด้กินทั้งข้วเช้า กลางวัน และตอนนี้ก็กำลัง จะไม่กินข้าวเย็นอีกมื้อ "รัญไม่ค่อยหิวน่ะค่ะแม่" "ไม่สบายหรือเปล่าลูก" "รัญไม่เป็นไรค่ะแม่ แค่เพลียๆ น่ะค่ะ" "ยังไงก็ออกมากินสักหน่อยนะ แม่เป็นห่วงน่ะ" เพราะเกรงว่ามารดาจะไม่สบายใจ หล่อนจึง จำต้องรับปาก ทั้งๆ ที่ต่อมความหิวมันไม่ทำงานเอา เสียเลย "ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวรัญออกไปนะคะ" "โอเค เดี๋ยวแม่รอนะลูก" "ค่ะแม่" เสียงฝีเท้าของมารดาเดินห่างออกไปแล้ว ใบหน้ำของรัญชิดาที่พยายามปั้นยิ้มก็ค่อยๆ กลับมา เป็นเศร้หมองดั่งเดิม หากแม่รู้ว่าวรากรกับโชติกาทรยศหักหลังหล่อน ท่านคงจะโกรธมาก และก็คงจะต้องมีการทะเลาะกับ อีกครอุบครัวอย่างแน่นอน ซึ่งหล่อนไม่ต้องการให้เป็น แบบนั้น หญิงสาวกัดฟันลุกขึ้นจากเตียง เดินไปหยุดที่ หนกระจกเ สำรวจใบหน้ของตัวเองจนมั่นใจว่าไร้ คราบน้ำตา จึงก้าวออกไป 優 "กินเยอะๆ นะรัญ นี่แกงเทโพของโปรดลูก" แม่ตักแทงเทโพกลิ่นหอมกรุ่นใส่จานให้กับ หล่อนอย่างเอาใจ"ขอบคุณค่ะแม่" หล่อนฝืนยิ้ม และก็ตัดสินใจบอกเรื่องของ ตนเองกับวรากร "เอ่อ...แม่คะรัญมีรื่องสำคัญจะบอกค่ะ" แม่เยหน้าขึ้นมองหล่อน ก่อนจะเอ่ยถามด้วย ความสงสัย "เรื่องอะไรเหรอลูก" "เอ่อ..." หล่อนอีกอักเล็กน้อย แต่ในที่สุดก็พูดออกมาจน "เรื่องพี่กรน่ะค่ะแม่" "อ๋อ เรื่องพ่อกรนี่เองมีอะไรล่ะลูก หรือว่า ทะเลาะกัน?" "เอ่อ..." หล่อนพยายามตั้งสติ ก่อุนจะบอุกออกไป "รัญจะถอนหมั้นค่ะ" "ห๊ะ ว่าไงนะรัญ?" หล่อนรู้ดีว่าแม่ตกใจ แต่หล่อนไม่อาจจะทน หมั้นหมายกับผู้ชายที่ไม่เคยรักหล่อนเลยได้อีกแล้ว วรากรคงทรมานใจมากที่ต้องฝืนใจเป็นคู่หมั้นของ หล่อน ถึงเวลาแล้วที่หล่อนต้องปล่อยเขาไปเสียที "รัญจะถอนหมั้นจากพี่กรค่ะ" "ทะ...ทำไมล่ะลูก เกิดอะไรขึ้น ไหนเล่าให้แม่ ฟังสิลูก" มารดาวางมือบนท่อนแขนขอหล่อน ในขณะที่ หล่อนพยายามฝืนยิ้ม ทั้งๆ ที่น้ำตาตกอยู่ข้างใน ตอนนี้หล่อนสับสุนเป็นอย่างมาก ตอนแรกคิด ว่เจ็บปวดกับการทรยศของคนรักและเพื่อนสนิท แต ตอนนี้กลับมีอีกเรื่องหนึ่งแทรกเข้มา และมันก็ดูจะ ยิ่งใหญ่มากกว่า ผู้ชายคนนั้น....ผู้ชายที่ปลุกไฟร่นในกายของหล่อนให้ตื่นจาก หลับใหล ผู้ชายที่ทำให้หล่อนรู้ว่ แท้จริงแล้วภายใต้ ความเพิ่มเขยของตนเองนั้น มีความหิวกระหายทาง เพศมากแค่ไหน มันบ้ามาก... และหล่อนไม่อยากจะยอมรับมันเลย! "รัญ... ม่อยากฝืนใจตัวเองอีกแล้วค่ะแม่" "นี่รัญพูดอะไรน่ะลูก แม่ก็เห็นรัญยินดีมาตลอด ที่ได้เป็นคู่หมั้นของพ่อกร แม่วพ่อกรจะต้องทำอะไรไม่ ดี ลูกสาวของแม่ถึงได้ถอดใจ ใช่ไหมลูก?" หล่อนควรจะบอกความจริงออกไป บอคว่วรา ทรกับโชติกา แทงข้างหลังของหล่อน แต่เพราะไม่อยาท ต่อความยาวสาวความยึด ทำให้หญิงสาวเลือกที่จะ รับผิดชอบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง "รัญ.. .เพิ่งมารู้ตัวค่ะว่ไม่ไต้รักพี่กรแบบนั้น" "นี่ลูกหมายถึง... ลุกไม่ใต้รักพ่อกรแบบคนเรา อย่างนั้นเหรอ" "ใช่ค่ะ รัญ... รักพี่กรแบบพี่ชาย.... หล่อนก้มหนหลบสายตาแคลงใจของมารดา ก่อนจะอ้อมแอ้มพูดออกไปอีก "รัญขอโทษนะคะที่เพิ่งมารู้ตัวเอาตอนนี้ แต่รัญ ก็คิดวมันยังไม่สายเกินไป.... มารดาของหล่อนถอนใจนับครั้งไม่ถ้วน แต่ใน ที่สุดท่านก็ตามใจหล่อน "แม่จะไปคุยกับคุณป้ให้นะ แต่คงถูกฝ่ยนั้น ถอนหงอกเอาหลายเส้นแน่นอน" "รัญขอโทษนะคะที่ทำให้คุณแม่คุณพ่อต้อง เตือดร้อน รัญจะเป็นคนไปกราบขอโทษคุณป้เองค่ะ คุณแม่ รัญ.." น้ำตาของหล่อนไหลออกมา แต่ก็รีบ ป้ายทิ้ง "รัญผิดเองทุกอย่างค่ะ""ไม่เป็นไรหรอกลูก ดีแล้วต่างหากที่รู้ตัวเร็ว ก่อนที่จะแต่งงานกัน ถ้ไปรู้หลังแต่งงาน เรื่องคงน่ ปวดหัวกว่านี้เยอะ" แม่ของหล่อนก็ยังคงเป็นแม่พระผู้ใจดีสำหรับ ลูทเสมอ "รัญขอโทษนะคะแม่" "ไม่เป็นไรลูก กินข้าวเถอะ" หล่อนผงกศีรษะตอบรับมารดา และตักข้าวใส่ ปาก แต่สักพักแม่ก็ชวนคุย "พรุ่งนี้พ่อเขามีงานเลี้ยงที่บริษัทด้วยนะ เห็นว่า จะพาเราสองแม่ลูกไปด้วย" "รัญ... ไม่ไปได้ไหมคะ" หล่อนปฏิเสธ แต่คนเป็นแม่ลับไม่ยอมงำยๆ "แม่ว่าลูกควรจะไปเปิดหูเปิดตาหน่อยนะรัญ" "แต่รัญ..."