ประสบการณ์เสียว18+

ต้องมีตัวช่วย

ต้องมีตัวทั่วย ผมกับอ้อยแต่งงานกันมา 12 ปี ผมอายุปัจจุบัน 36 ปี อ้อยอายุ 32 ปี แต่อ้อยมีสรีระรูปร่างหน้าตาดูอ่อนกว่า อายุจริง คือใครๆจะมองดูอ้อยอายุแค่ 23-24 ปีเท่านั้น ยิ่งเราไม่มีลูกด้วยกัน ผออ้อยแต่งตัวเป็นเด็กวัยรุ่น ก็ยิ่งมีคนทัก อ้อยยิ่งทำตัวมีจริตจก้าน คล้ายเด็กวัยรุ่นเลย ซึ่ง ผมก็ภูมิใจ ที่มีเมียคล้ยเด็กวัยรุ่น เวลาไปไหน ถ้าคนไม่รู้จัก มักจะมองผมด้วยสายตา แบบผมเป็นเฒ่าหัวงูไปเสียนี่ ยิ่งตอนอ้อยทำทีเป็นเด็กวัยรุ่น บางที่เจอเด็กสาววัย รุ่นจริงๆ เกิดเข้าใจผิดมาตีสนิทเป็นเพื่อนกันเลย เราก็ขำกัน สนุก สนานเฮฮา อ้อ ที่บ้านผมเปิดเป็นอู่ซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ อ้อยต้อง แสร้างทำเป็นน้องสาวผมเสมอ เวลาอยู่ต่อหน้าลูกค้าคนไม่รู้จักก็ดีไปอย่าง เพราะอ้อยสามารถดึงดูดลูกค้า วัยรุ่นวัยโจ๋ที่มั่วสุมเป็นแก๊งค์ ได้รถมาซ่อม มาจูนแต่งรถ จน ทำให้รายได้เราดีเหนือกว่าร้านอื่น ก็อ้อยพูดง่าย กล้าพูดกล้แสดง แรงกว่าพวกสาววัย รุ่นด้วยกัน คล้ายอายุน้อย แต่มากประสบการณ์ (ก็อายุ 32 ผม เป็นผัวเธอมา 12 ปื คิดเอาสิว่า เจอมามากขนาดไหน) จะไม่ให้กร้านแกร่งยังไง ก็ไอ้กลุ่มวัยรุ่นวัยสาวจริงๆ ดีแต่ซ่าส์ ทำกล้หาญ แท้จริงแล้วยังเจอมาน้อย เลยไม่ค่อย ถนัดที่จะคุยอย่างชำนาญเหมือนอ้อยเมียผม ครับ ผมกับอ้อย มีเซ็กส์กันบ่อย แต่มาระยะหลังที่ ผมมีอาการเหนื่อยและเพลีย เลยถดถอยไปบ้าง ไม่ขยันขี่บ่อย เหมือนเมื่อก่อน อ้อยเองก็เข้าใจ ไม่กวนผม แต่เมื่อถึงบทที่เธอทนไม่ ได้ เธอก็จะจู่โจมปลุกเร้าให้ผมขยันทำงานกับเธอ และแน่นอนกับบทบาทลีลาที่เธอปลุกเรผม เหมือน เหมือนหนังเอ็กซ์ยังไงยังงั้น โดยเฉพาะกาคพิสดารวิตถาร ผม ชอบดู ดูแล้วได้อารมณ์มากกว่าเอ็กซ์ธรรมดา ในระยะหลังหลังจากที่อ้อยได้ดูแล้วก็มีการเลียนแบบดาราบ้าง สะท้านสนั่นหวั่นไหวไปทั้งเตียง จนกระทั่งมาเจอหนังเรื่องล่าสุด เป็นเรื่องสามีจับได้ ว่าเมียแอบมีชู้ ในหนัง... สามีเอาปืนเข้าไปจ่อทั้งชู้และเมีย ที่กำลัง เปลือยร่วมรักกันอยู่ โดยทั้งคู่ตกใจ ร้องขอชีวิต ฝ่ายสามีเหมือนมีวิญญาณปีศาจและเพชฌฆาตเข้าสิง เกิดวิปริตวิตถารยังไงไม่รู้ บังคับให้เมียและชายชู้ร่วมรักกันต่อ ไป ต่อหน้าสามีอีกครั้ง แต่ทั้งคู่ปฏิเสธ ก็ถูกสามีทำร้าย ด้วยการเอาขวดตีหัว จนแตก และเอาปืนจ่อ ทั้งคู่เจอการเอาจริงๆ รู้สึกกลัว ก็จำเป็นต้องเอาชีวิต รอด ด้วยการจำยอมร่วมรักกันอีกครั้ง ตามที่สามีเธอบังคับ แต่ฝ้ายชายชู้ไม่มีอารมณ์และพลังที่จะขยับเขยื้อนขึ้น มาทำงานได้ ทั้งที่ฝ้ยหญิง (เมียเขา) ช่วยปลุกอย่างเต็มที่แล้ว ก็ตาม อยู่ๆ ฝ่ายสามีกลับมีอารมณ์ซ่านส์อย่างแสดงออก จาก ความดุดัน เหี้ยมโหด ก็ค่อยๆลดลง เมื่อตัวเองเกิดอารมณ์แทนขึ้นมาก็บังคับให้เมียตัวเองกลับมาปลุกเร้าตนเอง โดยให้ชายชู้นั่งดู ด้วยการเอาผ้ามัดมือ มัดเท้าติดกับมนั่ง ให้เป็นฝ่ายดูเขากับภรรยาร่วมกันบ้าง ออกอาการคล้ายจะเย้ยชายชู้ ให้ดู ให้รู้ว่า ข้ายังเก่ง กว่า อะไรทำนองนั้น ฝ้ายภรรยา เมื่อมองเห็นว่าอารมณ์สามีคลี่คลายแล้ว จากคิดฆ่า มาเป็นความต้องการใคร่ เธอก็ตั้งใจทำสนองตอบ เสนออารมณ์อย่างจริงจัง ก็สามีตัวเองนี่ และคิดอยากลบล้างความผิดด้วย ด้วยเหตุนี้ ลีลาอารมณ์ และลูกเล่น จึงแตกต่างเหนือ กว่าที่เคยผ่านเกมส์มันมาก่อนหน้า ภรรยาเต็มสตีมฝ่ยสามีก็เต็มสูบทั้งคู่ลุยอย่างเหมือน หนังสงครามโลก ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 มารวมกัน เรียกได้ว่า ชายชู้ที่ถูกมัดมือมัดเท้า แรกๆนั่งตัวสั่นกลัว ชีวิตตนเองต้องตายเพราะเป็นชู้กับเมี่ยเขา แต่พอได้ดูไปดูมา ความกลัวถูกความมันสบดบังเสียมิด ชายชู้ จากสั่นเป็นสู้ขึ้นมาอย่างไรไม่รู้ตัว ตัวเกร็ง หน้า นิ่ว ออกอารมณ์จนผัวเมียที่กำลังปะทะกัน ต่างหันหน้ามามอง จ้องตา ส่งภาษาใจว่าเราทำได้ฝ่ายสามีเกิดความสะใจ เหมือนอยากทรมานชู้ ฝ้าย เมียก็คลายใจ ที่ทำให้สามีไม่เหี้ยมเหมือนตอนแรก เกมส์สูงครามจบไปด้วยคราบของเหลวที่เปื้อนเปรอะ เลอะเทอะของทั้งคู่ หลังผ่านสงครามกับไปแล้ว ฝ่ายสามีไม่ให้ภรรยาล้าง แต่กลับบังคับให้ชายชู้ทำความสะอาดให้ด้วยปาก โดยให้ฝ้าย ภรรยายืนคร่อมบนมนั่งนั่น แล้วให้ชายชู้ทำความสะอาด บังคับ ให้กลืนกินด้วยอีกต่างหาก ดูเป็นความสะใจ คล้ายแก้แค้นมากกว่า แต่พอสามีได้เห็นภาพการทำความสะอาดท่านั้นก็กลับ ทำให้มีอารมณ์ขึ้นมาอีก กระชากฉุดเอาเมียตนเองลงมาแล้ว ร่วมรักอีกครั้งจนได้ มันเกิดอารมณ์หึงหวงอย่างประหลาด แล้วก็บังคับเช่นเดิมอีกครั้ง ให้ชายชู้ทำความสะอาด จากนั้นก็ปล่อยตัวไป หลังจากนั้น ฝ่ายสามีก็คุมตัวภรรยาแจ ไม่ยอมให้ห่าง คลาดสายตา แต่พอจะร่วมรักกันแบบ 2 คนปกติ ฝ่ายสามีกลับ ไม่มีอารมณ์กระโจนเหมือนอย่างวันนั้นภรรยาก็ดูหงอยๆ ไม่ระริกระรี้ ไม่ตื่นตัวเร้าใจมากเท่า วันนั้น ที่สุดฝายสามีก็ให้ภรรยาไปตามชายชู้มา แต่ไม่สำเร็จ ชายชู้กลัวเจอซ้อนแผน ฝ้ายสามีต้องไปอ้อนวอน เชื้อเชิญให้ มานั่นเอง ชายชู้คนนั้นจึงยอมมา และคราวนี้ชายชู้ไม่ได้ถูกมัดจี้ด้วยปืน แต่ให้เปิดฉาก ก่อนเสียด้วยซ้ำ ด้วยการปลุกเร้า ขยำปล้ำ ได้ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ห้ามล่วงล้ำอธิปไตย จนสามีทนไม่ไหว มาร่วมวงร่วมขยำยำเมียตนเองด้วย แล้วจึงจัดการเมียก่อนอย่างสะใจ เมื่อเสร็จสมอารมณ์หมาย ก็อนุญาตให้อดีตชายชู้ ตอ ท้ายจากตน ท่ามกลางเสียงครางของเมียตัวเอง และภาพแห่งความตื่นเต้นเร้าใจของฝ่ายเมียที่แสดง ออกกับชายชู้ ที่ดูจะมีสมรรถภาพสูง ดูๆไปเหมือนจะเหนือกว่า บทบาทลีลาของฝ่ายสามีซะด้วย นี่เอง... มีหรือเจ้าของตัวจริง เจ้าของลิขสิทธิ์ จะยอม พ่ายแพ้ สามีต้องแก้ตัวแก้ลำ แสดงศักยกาพเพื่อลบล้าง สองชายต่างประกวดประชันอย่างสุดฤทธิ์สุดเดชแต่ผู้ที่รับไปเต็มๆ ก็คือฝ้ายหญิงนั่นเอง เธอรู้สึกสะใจ อย่างสุดๆ นี่คือจุดเริ่มตันของผมที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ก่อนอ้อยทำให้ ผมมีอารมณ์ มีความคิดฟุ้งซ่านอย่างรุนแรง ผมได้เรียกอ้อยมาดูบ้าง เพื่อหยั่งรู้อารมณ์และความ รู้สึกในเรื่องนี้ ปรากฏว่า เมื่ออ้อยดูจบ ยังไม่ทันจะสบตา อ้อยก็ถลา เข้าคลุกผมและเรต่างเกิดอารมณ์ที่จะฟาดฟันกันอย่างฉับพลัน ปัจจุบันทันด่วน ถอดเสื้อผ้ากันแทบไม่ทัน ครั้นสงครามจบลง เราคงกอดก่ายทับกันบนร่างเปลือย ด้วยกัน ผมลองถามอ้อยว่า "ถ้เราจะทำแบบในหนังที่ดูบ้าง อ้อยจะว่าไง" อ้อยถึงกับตาขวาง "พ่อเป็นพวกโรคจิตวิตถารเหรอ หนังก็คือหนัง ไม่ใช่ เรื่องจริง เขาสร้างไว้หลอกคนดู" ผมก็บอกว่า... "แล้วถ้าเราจะลองดูมั่งล่ะ น่าสนุกนะ"อ้อยถึงกับมีสีหนโกรธ ก่อนจะเอ่ยเสียงเข้ม "แล้วพ่อกล้ที่จะให้อ้อยทำอย่างนั้นหรือ" ผมก็ใจสั่นเต้นตูๆ คิดหนัก จริงดั่งเธอว่า "ถ้ได้ทำจริง ผมจะกล้ และจะทุนได้หรือ" นี่คือโจทย์ที่ผมต้องการคำตอบ "ไม่รู้สิ พ่อคิดว่าน่าจะทำได้" พอผมพูดแค่นั้น อ้อยดูจะโกรธมาก ลุกขึ้นเข้าห้องน้ำ เสร็จก็เข้าครัวเลย จนเราออกมานั่งโต๊ะอาหารกัน อ้อยไม่พูด ไม่มองหน้า ผมเลย ตอนนั้นผมสันสบจริงๆ คิดดู...ไอ้หนังเรื่องนั้น มันมีอำนาจและอิทธิผลเปลี่ยน แปลงความคิดผมได้ถึงขนาดนี้ ในที่สุดเรื่องนี้ก็เป็นอันยุติ ผมไม่เอ่ย อ้อยก็ดูค่อย คลายใจลงบ้าง แต่ผมยังฝังติดอยู่ในใจเหมือนเดิม เวลาร่วมรักครั้งไร ผมจะจินตนาการ จำลองเหตุการณ์ ว่ามีบุคคลที่สามเข้ามาอยู่ร่วมด้วยทุกครั้งไป ผมเผลอบ่อยๆ ที่จินตนาการนอกลู่นอกทาง จนอ้อย สงสัย ที่ผมจะมีท่าทางและอาการแปลกๆเช่น ผมจะเผื่อที่ว่าง คล้ยจะมีอีกคนอยู่ด้วย หรือมอง ไปที่ม้านั่ง คล้ายมีคนนั่งอยู่ จนอ้อยอดถามไม่ได้ "พ่อมองอะไร อ้อยเห็นพ่อมองไปที่นั่นที่นี่อยู่เรื่อย" ผมก็ต้องรีบตอบ "ไม่มีอะไรหรอกน่า อย่าคิดมาก" แล้ววันหนึ่งฝันที่เป็นจริงก็ได้เกิดขึ้นอย่างเหลือเชื่อ เมื่ออ้อยบอกกับผมว่ามีเพื่อนสมัยเรียนหนังสือมัธยมมาด้วยกัน ได้โทรมาปรึกษา "คือสามีเธอไปทำงานต่างประเทศ กำหนด 2 ปีกลับ นี่ไปได้ 7 เดือนแล้ว แรกๆก็พออยู่ได้ แต่ตอนนี้เธอมีอาการเหงา อยากจะชวนอ้อยไปเป็นเพื่อน..." อ้อยพูดจริงจัง มองหน้าผม แล้วพูดต่อ "เมื่อเธอลงมาที่กรุงเทพฯ จะให้อ้อยติดต่อเพื่อนชาย ที่ไว้วางใจได้ให้หน่อย เธอจะจ้างเขาช่วยระบายมันออกที เพราะ อดมานาน" ที่อ้อยมาพูดคุยกับผม เพราะเธออุตริ คิดจะให้ผมไป เป็นไอ้ตัว ได้ค่าจ้างด้วยเผอิญว่าเพื่อนคนนี้ของอ้อย เราไม่เคยเจอกัน อ้อย มีแต่โทรคุยกันในระยะหลังเท่านั้น เธอรู้เบอร์มาจากเพื่อนอีกคน ผมมองหน้าอ้อย คล้ายจะถามว่า เธอจะกล้าเสียสละ ให้ผมไปทำเช่นนั้นหรือ อ้อยมองตาผมรู้ว่าผมคิดยังไง "อ้อยอยากให้พ่อได้ตื่นเต้น เปลี่ยนรสชาติบ้าง เพราะ ตลอดเวลา พ่อไม่เที่ยว ไม่เคยนอกใจอ้อยเลย" อ้อยพูดเช่นนี้จริงๆ ผมเลยได้ความคิด ต่อรองกับอ้อย "ถ้าอ้อยเห็นดี พ่อก็กล้ แต่อ้อยต้องอยู่ด้วยนะ พอ ถึงจะตกลง" อ้อยรีบบอกเลย "แน่นอน ก็เพราะเพื่อนที่ว่านี่ เธอขอร้องให้อ้อยอยู่ เป็นเพื่อนเธอด้วยน่ะสิ อ้อยถึงเลือกพ่อไง แต่ถ้าพ่อไม่เอา อ้อย ก็ต้องปฏิเสธ จะบ้หรือ จะให้อ้อยไปอยู่ในห้องกับผู้ชายที่เป็น ใครไม่รู้ แม้จะมีเพื่อนอยู่ก็ตาม อ้อยไม่กล้หรอก" เป็นอันตกลงกัน โดยแสร้งทำที่เป็นว่าผมเป็นเพื่อน ชายของอ้อย ไม่ให้เพื่อนอ้อยรู้ว่าเป็นผมสามีอ้อย พอถึงวันนัด ผมสุดตื่นเต้นจนอ้อยต้องกระตุกแชนเสื้อเมื่อพาผมมาหาเพื่อนสาวเธอคนที่ว่า เธอมาจากพิษณุโลก มาพักอยู่ที่โรงแรมแถวสะพาน ควาย ประเภทโรงแรม 3 ดาว ถือว่าไม่แพงนัก และใช้ได้ที่เดียว เสียแต่ว่ามีพวกแขกขาวต่างชาติพักแทบทั้งนั้น ผมกับอ้อยพยายามทำให้สมจริงสมจังเพื่อไม่ให้เพื่อน อ้อยรู้ว่าเราเป็นอะไรกัน ก็ลำบากน่าดู กลัวไม่แนบเนียน โอ้โฮ้แฮะ เพื่อนอ้อยสวยหุ่นดีเกินกว่าคิดเอาไว้ ตอน แรกผมวาดภาพ ว่าคงจะอ้วนตุ๊ตีะ อย่างแม่บ้าน ต.จ.ว. ทั่วๆไป แต่พอได้เห็นชัด และแนะนำตัว จึงรู้ว่าเธอเป็นถึงอดีตนางนพ มาศทีเดียว อ้อยพยายามเดินเกมส์ สร้างความคุ้นเคยต่อกัน แต ดูเพื่อนอ้อย ชื่อแตง จะส่อแสดงอาการในการพูดคุย และเหมือน มีความต้องการอย่างไม่รั้งรอ แตงดึงอ้อยไปแอบพูดคุย ซุบซิบเสร็จ อ้อยแอบส่ง สายตาเป็นซิกว่า "ทุกอย่างตามที่คุยกันไว้" อ้อยพูดกับแตงเรื่องอะไรไม่รู้จู่ๆเมื่ออ้อยมาถึงที่ผมนั่ง อ้อยสั่งผมให้ไปอาบน้ำเลยอ้อ ลืมบอกไป วันนี้ผมเหล้าเบียร์ไม่ดื่ม ก็แตงเขาต้อง การจุดนี้ด้วย เลยโชคดีที่ผมไม่สูบไม่ดื่มก็ได้ กุศลผลบุญทันตา เห็นก็คราวนี้ ผมรีบอาบน้ำออกมา โอ๊ะๆ แสงสีในห้องถูกปรับแต่ง จนสลัว ส่อแสดงถึงความมีอารมณ์สุนทรีย์ ผมเห็นแตงอยู่ในชุดผ้ขนหนูผืนเดียว กระโจมอก ผ้าผูกผมกันเปียก เดินเลี่ยงเข้าห้องน้ำไป ผมก็อยู่ในชุดผ้าขนหนูผืนเดียว เปลือยอก อ้อยนั่ง อยู่ขอบเตียง พอเสียงประตูห้องน้ำปิด อ้อยดึงผมเข้ทา คล้ายจะ หึงหวงและเสียดาย อะไรประมาณนั้น อ้อยเอามือมาล้วงดึงไอไบ้ที่คุ้นเคย เหมือนจะสั่งลาว่า มันจะหลงทางไปชั่ขณะ อ้อยถึงกับก้มหน้าซุกไซ้ เล่นเอาผม เกือบทนไม่ไหว พอดีเสียงประตูห้องน้ำดังปิด ดีที่เรายังไม่เตลิด รีบ ผละทำตัวปกติ ถึงคิวอ้อยผลัดผ้ไปอาบน้ำบ้าง ผมงง อ้ว ไหนตกลง กันว่า ให้ผมเล่นกับแตง แล้วอ้อยจะนั่งดูเป็นเพื่อน ไหงต้องอาบน้ำด้วยล่ะ ชักพิกลแล้ว แตงเดินมาหาผม จังหวะที่อ้อยปิดประตูห้องน้ำ แตง ก็นั่งคร่อมบนตักผม อะไรที่อยู่หน้าขาของเธอ ก็แผลมรำไรๆ อกอวบอั๋นเต่งไปทั้ง 2 เต้า แตงโอบรอบคอผม แล้วจู่โจมผมเลย กอดแล้วจูบ ดูดปากผมอย่างรุนแรง สมแล้วที่อดอยากปากแท้งตามที่ว่า 7. 8 เดือนจริงๆ ผมตอบโต้เกือบไม่ทัน ก็เอาลิ้นเข้ามาคว้านในปากผม โชคดีลิ้นไก่อยู่ลึก ไม่งั้นคงถูกกระชากหลุดออกมาแน่ ไม่เพียงแค่นั้น กันที่นั่งทับก็ดูจะแกล้งส่ยขย่มคุนดัน แกล้งไอไบ้ผมที่มันยังชันแข็งตั้งแต่ก่อนหน้ถูกอ้อยแกลังมา ก่อนแล้ว ผมลุกขึ้นลูกผู้ชายฆ่ได้หยามไม่ได้ผมอุ้มแตงขึ้นเตียง เถียงกันไม่เลิกเลย ทีนี้มันส์สุดๆ ดึงผ้าเช็ดตัวออกได้ ผมก็บรรเลงให้เธออย่างเต็มที่ ปลายลิ้นผมทำหน้าที่อย่างเชี่ยวชาญ ตวัดไล้ไปจนทั่ว นาผืนน้อยนั้น แตงถึงกับดิ้นเร่าๆ เหมือนใจจะขาด "อย... ซื้ด...."เสียงครางดังพอสมควร ผมจู่โจมเธอต่อด้วยการไช ลิ้นเข้าไปในซอกหลืบ ยิ่งทำให้เธอดิ้นพล่านขึ้นอีก "โอ๊ย... พอแล้ว... อาาาาา..." เสียงกระเล่าแบบนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอเสียวซ่าน มากขนาดไหน ไอ้ใบ้ของผมตอนนี้มันแทบจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ แล้ว ผมเลื่อนตัวขึ้นมาดูดที่เต้าอวบของเธอต่อ มือก็จับไอ้ใบ้ ถูไถที่ปากถ้ำของเธอไปด้วย เธอสนุก ผมสนาน อาการเหมือนรถไฟชนกันมากว่า เครื่องบินชนกัน เพราะขบวนมันยาวกว่ากัน ตอนนั้นจวนจะ เห็นพระอินทร์เหาะมาเขียวๆอยู่แล้ว อ้อยออกมาจากห้องน้ำเมื่อไหร่ไม่รู้ ดึงผมมาติดตัว นัวเนีย คล้ายขอส่วนแบ่ง หรือแกล้งอย่างหึงหวงไม่รู้ พระอินทร์ เลยวูบหาย ผมต้องเริ่มต้นใหม่ ก็ดีเหมือนกัน แต่คุณเอ๋ย มันหนักกว่าเก่าเข้าไปอีก เมื่อทั้งสองกลับ ร่วมมือร่วมใจกัน รุมโทรมผมคนเดียวนี่น่ะซึ โจมตีผมด้านล่าง ด้วยแตง ด้านบนก็แม่ยอดขมองอิ่มของผม แตงจับไอ้ไบ้ผมเข้าไปในปาก เธอชิมรสชาติอย่างเอร็ดอร่อย เทคนิคลี่ลาเธอไม่เลวเลย ใช้ลิ้นได้เก่งไม่แพ้อ้อยเมียผม แต่อรรถรสแตกต่างกันพอสมควร ส่วนอ้อยก็ไม่ยอมน้อยหน้ ไซ้ที่ซอกคอผม แล้ว เลื่อนมาดูดปากกับผมอย่างเมามันส์ ผมโดนดูดทั้งบนทั้งล่าง แบบนี้ สวรรค์ชั้น 7 ยังเรียกพี่เลย แล้วผมก็มาถึงจุดที่ทนไม่ไหว ลุกขึ้นจับอ้อยเมียผม ทำท่าโก้งโค้ง แล้วผมใส่เธอไม่ยั้งจากด้านหลัง จนเธอถึงกับทำ หน้าบิดเบี้ยว แตงซึ่งนั่งมองอยู่ใกล้ๆ คงไม่อยากอยู่เฉยๆ เอาเต้า อวบมาถูไถที่บริเวณใบหน้าผม บอกตามตรง ความสุขแบบนี้ผมไม่เคยเจอมาก่อน มัน เร้าใจจนบอกเป็นคำพูดไม่ได้ ไอไบ้ผมมันปังอย่างที่ไม่เคยเป็น มาก่อน อ้อยเห็นแตง ก็เข้าใจว่าเธอคงอยากเหมือนกัน "มาแตง... เรามาเปลี่ยนกันบ้าง" นั่นแหละ ผมจึงได้ทำกับแตง ผมจับแตงโก้งโค้งท่า เดียวกับเมียผม แล้วผมก็ใส่เกียร์ 3 ทันที "อูยยยย..."เสียงแตงบ่งบอกถึงความสุขที่ได้รับ ผมก็สนุกจนลืมตัว มือบีบขยำสะโพกใหญ่ของเธออย่างมันส์มือ อ้อยเข้ามาประกบด้านหลังผม แล้วเอาเต้าสวยเบียด หลัง ถูไถไปมา สะโพกผมยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างชำชอง ผมกระ แหกจนแตงร้องไม่เป็นเป็นภาษามนุษย์ แล้วเธอก็ถึงสวรรค์ชั้น ที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่ผมยัง... ผมต้องรอให้อ้อยเมียสุดที่รักของผมเสร็จ ด้วย ผมผละจากแตง มาจับอ้อยนอนหงาย แล้วกระแทกอย่าง ไม่ยั้ง วัวเคยขาม้าเคยขี่ รู้ใจกันทุกอย่าง เพียงไม่นานเราทั้ง คู่ก็ไปถึงสวรรค์พร้อมๆกัน ตกลงคืนนั้น เราคงอยู่ด้วยกัน โชคดีตอนนั้นยังหัวค่ำ อยู่ ก็ได้หลับกันอย่างเต็มอิ่ม แต่คุณเอ๋ย ตอนตี 4 ได้ ถ้จำไม่ผิด สองสาวมหากาฬ ก็ก่ออิทธิฤทธิ์สร้งอภินิหารปรากฏการณ์ขึ้นมา สองสาวพร้อมใจกันจู่โจมผมอีกรอบ ทำให้ผมคิดถึง ก่อนที่ผมจะมาอยู่ กทม. ผมเคยเป็นกรรมกรรับจ้างขุดดิน ทำทำนบดิน ขุดเหวี่ยงดินทั้งวัน เหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่ยัง ไม่สาหัสเท่าครั้งนี้เลย ผมลืมญาติลืมพี่ลืมน้องไปหลายวัน ได้ประสบการณ์ มา กลับกรุ่นกระตุ้นจิตใจให้ห้าวหาญมากกว่าเดิม ถึงกับกล้าที่ จะเอ่ยปากกับอ้อยว่า "พ่ออยากให้อ้อยได้พบความตื่นเต้นบ้าง อย่างที่อ้อย ได้ให้ผม" อ้อยไม่ปฏิเสธแฮะ แต่ย้อนถามว่า "แล้วพ่อไม่หวงอ้อยเหรอ" ผมสั่นหน ในเมื่ออ้อยกล้าให้ผมได้ ผมต้องกล้าให้ อ้อยได้เหมือนกัน อ้อยดูตื่นเต้น แต่ยังแบ่งรับแบ่งสู้ ผมรู้ว่าอ้อยลังเลใจ ในเรื่องผู้ช่วยบุคคลที่ 3 มากกว่า เมื่ออ้อยกล้ให้ผมได้ ก็หมายถึงจิตใจอ้อยได้เลื่อนขั้น ของความเข้าใจในเรื่องธรรมชาติของเซ็กส์ ว่าไม่จำเป็นต้องยึด ติดกับเรื่องนี้ว่าต้องเป็นผัวเมียกันเท่านั้นถึงจะร่วมรักกันได้ ตาม ขนมธรรมเนียม เราแยกแยะเรื่องความรับผิดชอบของการครองคู่กันแยกเรื่องเซ็กส์ที่ธรรมชาติของร่างกายต้องการออก จากกันได้ ทุกสิ่งอย่างก็ลื่นไหลไปกับความสุข ผสมผสานกับ ลมหายใจ แล้วความฝันเริ่มก่อเป็นรูปเป็นร่างในวันหนึ่ง ที่เผอิญ มีดาราระดับพระรอง เอาช็อปเปอร์มาจูนเครื่องใหม่ เขาเห็นอ้อยเข้าก็คงคิดเดาผิดเช่นคนอื่นๆ เห็นว่าอ้อย หน้าตาน่ารัก จึงชมว่านจะไปเป็นดารานะ และที่สำคัญ เขาแอบถามผมว่า "อ้อยเค้าเป็นอะไรกับพี่ครับ" ผมก็เลยจำต้องโกหก "อ้อ อ้อยเหรอ เป็นน้องเมียผมเอง ผมก็แอบหมาย ปองอยู่ แต่เธอบ้าดารานะ เอาไว้ผมจะแนะนำให้" เท่านั้นเอง พล ดาราพระรองคนนี้ ก็มาเป็นแขกประจำ เขามักจะแกล้งเอารถมาให้ตรวจเปลี่ยนนั่นทำนี่ ผมก็เปิดโอกาส ให้พลและอ้อยได้พูดคุยกัน มันสร้างความตื่นเต้น ระทึกขวัญตลอดเวลาที่พลกับ อ้อยได้พูดคุยกัน ตรงโต๊ะบัญชี พลทำที่รอรถซ่อมไปในตัว อ้อยเองก็สะท้านทรวงอยู่ไม่น้อย แต่คอยจะเหลือบตาแลผม ว่าจะมีอาการอย่างไร ผมเองก็ใช่ว่าจะปกติสุข ผุดลุกผุดนั่งใจเต้นสั่น เหงื่อ แตกพลั่กๆ อดเสียว หวงหึงอยู่ในอารมณ์ แต่แสดงออกไม่ได้ เลือกทะลึ่งสร้งเรื่องเองทำไม โทษใครไม่ได้ เหตุการณ์ต่อเนื่อง อ้อยมากระซิบผม "พลเค้าชวนอ้อยไปเที่ยว พ่อว่าไง" ผมอนุญาตให้พลพาอ้อยซ้อนท้าย ไปเที่ยวผับได้ แต ต้องไม่มีอะไรกัน ซึ่งก็เป็นไปตามที่กำหนด แต่ผมอดหวั่นไหวกับเหตุการณ์ที่จะต้องเกิดขึ้นไม่ได้ มันน่าจบลงตรงนั้น ตอนนี้ผมทำใจลำบากมาก คิดอยากจะเลิก ล้มเสียแล้ว แต่อ้อยกลับดูสดใส และมีอารมณ์จู่โจมผม ทุกครั้ง ที่อ้อยกลับจากเที่ยวผับ จะบอกเล่าความเป็นสุภาพบุรุษของพล เธอบอกว่าล้ำลึกสุดก็คือแค่กอดจูบกันเท่านั้น ตอน เพลงช้ๆ จังหวะสโลว์ซบ แค่นี้ผมก็หึง ฮึดฮัด กระหน่ำอ้อยอย่างรุนแรง แล้ว อ้อยเองก็คงเจอจุดอ่อนของผม เวลาผมหึงผมจะดึกมาก อ้อยรู้ใจ โยนความสุขความเพิ่มพลังให้กับผม มันก็สะท้อนถึงตัวอ้อยด้วย ก็เป็นผลดีต่อกัน คิดๆแล้วได้มากกว่าเสีย... แล้วถ้ากล้กว่านี้ล่ะ นี่เองที่ทำให้ผมตัดสินที่จะเดินหน้าต่อไป อย่างกล้าๆ กลัวๆ และเมื่อเวลามาถึงจนได้ พลได้มาพูดกับผมว่า "อ้อยเค้าชวนเราไปเที่ยวน้ำตกกันครับ เค้าอยากไป พักผ่อน แต่ต้องมีพี่ไปด้วย" อ้อ ลืมบอกไป ที่ผมบอกว่าอ้อยเป็นน้องเมียนั้น ผม บอกผลว่า พี่สาวอ้อย เมียผม ได้ตายไปได้ 2 อ้อยจึงมาอยู่ แทน ทำงานบ้านแทนพี่สาวเธอ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องสมมุติ ทั้งสิ้น เพื่อการเล่นละครให้สมจริง ตกลงเราไปกัน ผมมีรถปิคอัพ จึงไปกันได้ 3 คน ผมแอบกระซิบกับผล ตอนรถไปจอดปั๊ม ตอนนั้นอ้อย ไปเข้าไปในห้องน้ำ "คืนนี้เราหาทางฟันอ้อยกัน" ผมเอ่ยขึ้นก่อนพลดูมีความตั้งใจแบบนั้นอยู่เหมือนกัน ผมอ้างว่าต่ออีกว่า "ผมดูๆแล้ว อ้อยเค้าเป็นคนมีอารมณ์ร้อนแรง แต่ชอบคนหล่อ ผมเคยคิดจะล่ออยู่ตั้งหลายครั้ง แต่ไม่ประสบโอกาส ซักที่ คราวนี้มีคนหล่อมาล่อ ถ้าอารมณ์เธอลื่นใหล ผมอาจจะ มีโอกาสต่อได้" ดูผลไม่เข้าใจ และมั่นใจในคำพี่ผมพูดมา แต่ก็ต้อง เสี่ยงลองดู เมื่อรู้ว่าผมต้องการเล่นด้วย (หมายถึงรู้เห็นเป็นใจ ในฐานะพี่เขย) เมื่อรู้เห็นเป็นใจกันแล้ว พอรถถึงรีสอร์ท เราได้เช่าบ้าน พัก 1 หลัง มี 1 ห้องนอน แรกๆอ้อยทำที่ท่าว่าจะไม่เอา แต่ผมอ้างว่า "เราอยู่กัน 3 คนจะกลัวอะไร ดีเสียอีก ที่ได้อยู่กัน พร้อมหน้า" อ้อยก็ทำท่าทีเห็นดีด้วย เสียงอ่อยๆ และคืนนั้นหลังอาหารค่ำ ผมดื่มเบียร์กันนิดหน่อย ปล่อยให้อ้อยกับพลอยู่ด้วยกันก่อน เพื่อจะได้สร้งบรรยากาศ และสร้างอารมณ์ ก็รู้กันระหว่างผมกับผล และผมกับอ้อย แต่อ้อยกับ พลนั้น อ้อยรู้ แต่พลไม่รู้ นี่เองที่พลจึงต้องใช้ศิลปะและอารมณ์กับเทคนิค ลีลาลูกเล่น หว่านล้อมอ้อยให้ยอม ที่จะได้สุขสมต่อกัน ซึ่งอ้อยก็ เล่นได้สมบทบาท ที่ว่าเจอหนุ่มหล่อ ตัวงอเหมือนกุ้ง 4 ทุ่มเศษ ผมทำที่อยู่นอกชาน นั่งฟังเสียงน้ำตก กับ จิบเบียร์ ปล่อยให้อ้อยกับพลเข้าไปคุยกันภายในห้องนอน ผมอยู่ด้านนอก ก็แอบดู เพราะได้หารไว้ก่อนตั้งแต่ บ่ายๆ ผมมองเห็นภายในห้อง ตั้งแต่ทั้งสองนั่งคุยกันบนเตียง จากนั้นพลค่อยๆเอื้อมมือกอดกระซิบ และประกบหน้า จูบกันเลย แรกๆอ้อยทำอาย แต่ก็ทนฝืนไม่ไหว ก็ต้องหันหน้าสู้ จูบกันดูดดื่ม ภายใต้ผ้าห่ม ผมเห็นมือไม้อ้อยปัดป้อง แต่พลเอาแต่จะล้วงจก เหมือนหนวดปลาหมึก ผมแอบดู กลับคึก ไม่หึงหวง แต่อยากร่วมด้วย แต ผมต้องอดใจรอ ตามนัด ดูได้พักเดียว ผมหันมารินเบียร์ แล้วเดินกลับไปดูต่อ อะไรกันวะ ผมเห็นทั้งคู่กอดก่ายกัน ปลือยกายกัน แล้ว ช่างรวดเร็วอะไรปานนั้น ผมเจอภาพพลกำลังแลบลิ้นชิมของคาว อ้อยถึงผวาใบหนของพลซุกอยู่ตรงหว่างขาอ้อย มือไม้ก็บีบไป ตามร่างกายของเธอ โอ๊ย.. ไม่น่าเชื่อ ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก อ้อยท่าทางจะมีความสุขสุดๆ เธอแหงนหน้า หลับตา พริ้ม มือจิกผ้าปูที่นอนแน่น สงสัยพลคงจะชำนาญเรื่องการใช้ ลิ้นมาก เพราะตอนผมทำ อ้อยไม่เคยเป็นอย่างนี้เลย ผลใช้เวลาซุกหน้าอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานพอสมควร ผมเห็นไอไบ้ของพลแล้ว ก็ไม่เท่าไหร่ พอๆกับของผม รู้สึกโล่ง ใจเหมือนกัน เมียผมจะได้ไม่เยินมาก แล้วผมก็ทนไม่ไหว รีบอย่างสุดไว ก็นัดกันไว้ จะช่วย กันรุมไง นี่เล่นเอาคนเดียว ผมผลักประตูเข้าไป ก็รู้กันว่าต้องไม่ปิด อ้อยทำสะดุ้ง ตกใจ "ว้าย พี่พล เข้ามาได้ยังไง" "อยู่เฉยๆ ไม่เป็นไรหรอก ไหนๆก็รู้กันแล้ว" ผมไม่ฟังเสียง เข้าประกบปากจูบกับอ้อย ในขณะพล อยู่ด้านล่าง อ้อยยอมโดยดี เพราะกำลังมีอารมณ์พล่านอย่าง กระหาย

เสริมสร้างประสบการณ์เสียว

ผมชื่อ "เคน' ผมมีเรื่อง #เสริมสร้างประสบการณ์เสียว จะมาเล่าให้เพื่อนๆ อ่านกันครับ เพื่อนๆ คิดเหมือนผมไหมครับที่ว่าเรื่อง เซ็กซ์' เป็น เรื่องแปลกประหลาดและพิสดารล้ำลึกเกินกว่ามนุษย์เราจะ หยั่งถึงได้ง่ายๆ เพราะรสนิยมเซ็กซ์ของแต่ละคู่ย่อมแตกต่าง กัน คู่ไหนที่มีรสนิยมเดียวกันก็จะอยู่ด้วยกันยืด ส่วนคู่ไหน ที่คิดต่างกัน คู่นั้นก็ย่อมต้องเลิกรา หรือไม่ก็อยู่กันอย่างไม่มี ความสุข หวานอมชมกลืนกันไปวันวันผมอยากบอกเล่าเรื่องของผมครับ รสนิยมของผมอาจ แปลกไปสักหน่อยสำหรับคนไม่เคย แต่สำหรับคนคอเดียวกัน มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์เสียวกันครับ หรือจะอ่านเอามันไว้ #เสริมสร้างประสบการณ์เสียว ผมก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์นะครับ แต่ผมมั่นใจว่าต้องมีเพื่อนคนใดคนหนึ่งเป็นเหมือนผมแน่ ผมเป็นเด็กบ้านนอกครับ เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ตั้งแต่อายุ 16 ปี และได้ล่อหญิงครั้งแรกก็ตอนที่เพื่อนพาไปขึ้น ครูแหล่ะครับ 'ครู' หรือ 'ผู้สอนประสบการณ์เสียว' คนแรกของผม เธอเป็นหญิงรุ่นราวคราวแม่ อาศัยอยู่ห้องแถวเดียวกันกับผม และเพื่อนๆ เธอชื่อพี่นาครับ ผมรู้นานแล้วว่าพี่นารับอาชีพ เสริมขึ้นครูให้กับหนุ่มๆ ในละแวกนี้ แต่ผมไม่อาจหาญจะเดิน เข้าไปหาแกแล้วบอกว่า สอนผมเย-หน่อย' หรอกครับ ผมก็ ได้แค่ต้อมๆ มองๆ รอจังหวะที่เพื่อนจะชวน และโอกาสนั้นก็ มาถึง แน่นอนครับว่าผมอายมาก จู่ๆ จะให้ผมไปนอนกับ ผู้หญิงที่ผมไม่เคยคุยด้วยได้ยังไง แถมเธอก็อายุมาก แต่ก็ว่าล่ะครับ ของแบบนี้มันตื่นเต้น แค่เธอเขาเอามือมาว่าบนเป้า กางเกง ผมก็แข็งจนแทบจะแตกอยู่แล้วครับ จากนั้นพี่นาก็สอนผมให้รู้ว่ามนุษย์เขาเอากันยังไง ผม ได้รู้ว่าการถูกดูดเลียตุ้น โคตรของโคตรชองโคตรมันส์สุดๆ แต ผมไม่ได้เลียให้พี่นาอย่างที่เห็นในคลิปนะครับ เพราะพี่นาบอก ว่าผมยังเด็กอยู่ ดูดนมอย่างเตียวก็พอแล้ว ส่วนเรื่องเลีย ให เก็บลิ้นไว้เลียให้ผู้หญิงที่ผมรักเถอะ แน่นอนครับ มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ตั้งแต่ขึ้นครูครั้งแรก ผมก็ฟันสาวไปค่ะล่ะ แต่ก็ยังไม่เคยได้มีโอกาสลงลิ้นให้ใครสัก คนนะครับ แต่เพื่อนๆ ผมมันบอกกันว่า ลิ้น' คืออวัยวะของ ผู้ชายที่สำคัญรองลงมาจากตุ้น เพราะหากเอาแล้วไม่เลีย เมีย ก็เสร็จไม่สุด เพื่อนๆ ว่าจริงไหม แต่แล้วก็มีวันที่ผมได้พิสูจน์ ตอนเรียนมหาลัยปี 3 ผมมีแฟนครับ แฟนจริงๆ ที่ผม คิดจะแต่งงานด้วย เธอชื่อว่า 'ลูกพีช' ลูกพืชเป็นสาวน้อยร่างเล็กยิ้มสวย ยิ้มที่ใจผมละลาย เลยครับ หลังจากขายขนมจีบประมาณ 3 เดือน ผมก็ได้ฟัน เธอครับ อยากบอกว่าเป็นความโชคดีของผมอย่างที่สุด เพราะลูกพีชเธอหอมเหมือนลูกพีชจริงๆ น้ำหยาดเยิ้มที่ไหลออกจาก ร่องเสียว หอมจนผมอดใจไม่ไหว เป็นครั้งแรกที่ผมอยากลงลิ้น 'เลีย' ให้ผู้หญิง น้ำหวานฉ่ำเยิ้มที่ไหลออกจากร่องตอกไม้สีชมพูสวย สง กลิ่นหอมอ่อนๆ จนผมอดใจไม่ไหวต้องก้มหน้าชิดจดจมูกสูด คม และเมื่อดมเข้าไป ลิ้นของผมก็ทำตามหน้าที่ทันที ครั้งแรกที่ลิ้นสัมผัสตัวตนของผู้หญิง ลูกพีชร้องลั่น ส่วน ผมก็สั่นไปทั้งร่างอยากจะกลืนกินเธอให้หมด อยากจะแยงลิ้น ลงไปสัมผัสตัวตนของลูกพีช อยากรู้ว่าลิ้นของผมจะทำให้เธอ ดิ้นพล่านได้แค่ไหน และผมก็ทำทุกสิ่ง เลียทุกชอกทุกมุมของความสวย เชาะสิ้นไปทุกที่ที่ ปลายลิ้นของผมสามารถแทรกเข้าไปได้ และก็จ้วงแทงแหย่ลง ไปในร่องเพื่อตวัดเอาความหยาดเยิ้มออกมาให้มากที่สุด จน ลูกพีชร่ำร้องเกร็งกระตุกเสร็จแล้วเสร็จอีกจนนับครั้งไม่ถ้วน นั่นละครับ ผมจึงเข้าใจแล้วว่า เอาแล้วไม่เลีย เมียเสร็จ ไม่สุต นั้นเป็นยังไง เพราะผู้หญิงที่ผมเอามา ไม่เคยมีใครเสร็จ สุดๆ กรีดร้องครวญครางระงมได้เท่าลูกพีชสักคน และหลังจากนั้นผมจะจ้วงแทงเธอกี่รอบ จะเอาท่าไหน ตรงไหน ลูกพีชก็ยอมผมทั้งหมด แม้กระทั่งผมจับเธอซอยตั้งแต่หน้า ประตูห้องพักและให้คลานเข้าไปจนถึงเตียงนอน ลูกพีชก็ไม่มี ปฏิเสธ นั่นเพราะผมเลียลูกพีชจนร้อนฉ่าแล้วน่ะสิครับ ผมกับลูกพีชเอากันทุกวัน วันละหลายยก จนเรียนจบ ผมก็ขอให้พ่อแม่ไปหมั้นลูกพีชไว้ก่อน จากนั้นพอเราทำงาน เก็บเงินได้สักก้อน ค่อยแต่งงานกัน นั่นคือจุดเริ่มตันของสวรรค์สำหรับผมเลยครับ ได้อยู่ ด้วยกันที่กรุงเทพฯ แบบคู่ผัวตัวเมียทั่วไป ไต้เอากันท่าใหม่ๆ อยู่เสมอ เรียกได้ว่าอย่าให้ได้อยู่กันสองต่อสอง เพราะผมชอบ เอา ลูกพีชก็ชอบถูกเอาครับ เอามันส์ เอาหน เอากันไม่หยุด หย่อน ถ้าถามว่าผมอ่อนเพลียบ้างไหม ก็ไม่นะครับ อาจเพราะ ผมออกกำลังกายดูแลสุขภาพตัวเองอยู่เสมอก็ได้ และลูกพีชท เป็นสาวเต็มตัวก็มีสัดส่วนสะท้นใจผมมากขึ้น อกอวบขึ้น เอว คอดลง และสะโพกก็ผายมากขึ้น ที่ดีสุดคือลูกพีชเรียนรู้ที่จะ ร้องขอสิ่งที่เธออยากได้ เช่น หากเธออยากให้ผมเลีย เธอก็จะบอกตรงๆ เธออยากได้ทุกที่ในห้อง ตรงไหนก็ได้ ขอแค่ลูกพี ชเรียกหาและสั่งให้ผมเลีย ผมพร้อมจะเป็นหมาน้อยเลียร่อง เมียอย่างเอร็ดอร่อย เช่นตอนนี้ "ชี้ด... พี่เดนจ... ชี้ด... โอว... เลียมันส์จังเลย... โอย... ซี้ด... เมียเสียว... ด..." ลูกพีชนั่งแยกชาอยู่บนเคาน์เตอร์ในห้องครัวซึ่งเป็นทั้ง ที่เตรียมอาหารและมีชิงค์ลงจานอยู่ด้านข้าง ใช่ครับ... เธอกำลังทำอาหารเย็น แต่เธออยาก เธอก็ร่ำร้อง และผมก็ตามใจ ผมทาบฝามือรั้งหน้าขา ของลูกพีชให้กว้างขึ้นอีก เพื่อที่ผมจะได้แยงลิ้นใส่ร่องเธอได้ลึก ซึ่งลูกพีชให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เธอเอนกายไปด้านหลัง พิงกำแพง ตันขาแยกจากกันจนกว้าง พร้อมกับแอ่นร่องใส่ปาก ผมตามเสียงร่ำร้องของตัวเอง "พี่เดน! โอย... เสียว! เมียเสียว! อ่ะ! อ๊ยยยยย..." นั่นล่ะครับ แค่เลียไม่นานลูกพีชก็กรีดร้อง เธอเสร็จ แล้ว เสร็จคาปากของผม จากนั้นก็เป็นฝ่ายผมที่จะเสร็จตามโดยลูกพีชหันหน้ากลับไปล้างจานต่อ ส่วนผมก็เสยต้นใส่ ด้านหลัง แรกๆ ลูกพีชก็ล้างจานดีอยู่หรอกครับ แต่ไม่นานเธอก เกาะชิงค์แอ่นกันพร้อมร่ำร้องให้ผมกระแหกเธอแรงๆ เร็วๆ แน่นอนครับผมทำตามทุกอย่าง จากนั้นเสียงครางระงมก็เป็น ของผมกับเมีย 2 นี่แหละครับวิถีเรื่องเสียวที่ผมกับลูกพืชทำกันทุกวัน แต อย่างที่บอกนั่นล่ะครับ มนุษย์แต่ละคนมีรสนิยมเรื่องเซ็กซ์ที่ แตกต่างกัน แรกๆ ผมก็มันส์ทุกครั้งที่ได้เอาลูกพีช แต่ระยะ หลังผมอยากได้อะไรที่มากกว่านั้น ผมชอบดูคลิปโปและลูกพีช ก็ชอบไม่ต่างจากผม เรียกได้ว่าพวกเราเสพคลิปโปไปด้วยและ ทำตามท่วงท่าเหล่านั้นไปด้วย แต่บ่อยครั้งที่ผมเห็นท่วงท่าแปลกเช่นการสอดใส่ทาง ด้านหลัง หรือการร่วมเพศแบบหลายๆ คน ประเภท 2 หญิง 1 ชาย หรืออาจจะเป็น 2 ชาย 1 หญิง หรือจะเป็นเห็นรสนิยม ที่ค่อนข้างวิตถารแต่ที่ผมอยากลองที่สุดก็คือ การสอดใส่ทางด้านหลัง และการเห็นลูกพีชถูกคนอื่นเอา แล้วผมเป็นคนนั่งดู หรือไม่ก็ ร่วมวงเอาด้วย ยิ่งทุกครั้งที่ผมเอากับลูกพืชแล้วเธอร้องให้ผมเอาแรงๆ ให้ผมกระแทกใส่พร้อมกับขยี้ติ่งเสียวและดนมของเธอไปด้วย ผมยิ่งสติแตก อยากเห็นเมียถูกผู้ชายคนอื่นทำเสียว อยากเห็น เธอครวญครางอยู่ใต้ร่างผู้ชายคนอื่น อยากเห็นเธอร่ำร้องให้ ผู้ชายเหล่านั้นเร่งเครื่องกระแทกให้เธอเสร็จสมรุนแรง ใช่ครับ... ผมอยากเห็นเมียสวิงกิ้ง เพราะลูกพีชสู้ผมทุกท่า ไม่ว่าในคลิปทำท่าไหน ลูกพีช ก็พร้อม ผมเลยลองหยั่งเชิงดูครับ "อุ้ย! พี่เคนจะทำอะไร" ลูกพีชเอี้ยวหน้ามาถามขณะที่ผมกำลังสอดใส่ช่องทาง ด้านหลัง "ก็เอาไง" "แต่มันผิดรูแล้วนะพี่""ไม่ผิดหรอก พี่อยากเอารูนี้" "อุ้ย! ไม่เอานะ พี่เดน!" ลูกพีชดินเร่าๆ จะให้ผมเอาตุ้นออกจากปากทาง ด้านหลังของเธอ แต่ผมไม่ยอมหรอกครับ ถ้าพลาดครั้งนี้ไป คงไม่ได้เอาอีกแน่ เพราะลูกพีชคงห้าม "นะ... ลูกพีช อูย... มันแน่นมากเลย พี่อยากเอาเข้าไป นะ..." "อุ้ย! ไม่เอานะ พี่เดน! พีชเจ็บ! โอีย... พี่เคน!" ยิ่งลูกพีชดีดดิ้น ส่วนหัวของผมก็ยิ่งเข้าไปได้ง่าย และ ผมอยากให้ลูกพีชมีอารมณ์ร่วมและพร้อมจะสุขสมร่วมกับผม ผมจึงล้วงมือไปบี้ขยี้ติ่งเสียว พร้อมกับเคลันเต้านมของลูกพีช ไปด้วย ลูกพีชดูอ่อนลงแต่ก็ยังร้องให้ผมเอาออก ผมทนไม่ไหว แล้วครับ อยากสอดใส่ไปให้สุดทาง เพราะร่องด้านหลังของลูก พีชบีบรัดตุ้นผมเหลือเกิน ผมเลยค่อยๆ กระเดา พร้อมกับแหย่ 3 นิ้วเข้าไปใน ร่องฉ่ำน้ำของลูกพีช นั่นล่ะครับ ลูกพีชถึงกับกรี๊ด แต่ผมแน่ใจว่านั่นคือเสียงกรีดร้องจากความเสียวสุดๆ ผมไม่รอช้ากระเด้า เร็วขึ้นจนมิดตุ้น จากนั้นก็กดแช่เอาไว้ นิ้วมือก็สอดใส่ร่องฉ่ำ ด้านหน้า อีกมือก็เคลันนม จนเสียงกรีดร้องของลูกพีชค่อยๆ เปลี่ยนเสียงครางน้อยๆ "ดีมั้ยลูกพีช อูย... แน่นเหลือเกิน แน่นสุดๆ โอย... เมีย จ ผัวแน่น" "ตีค่ะ ดี.. โอย.. แต่ก็ยังเจ็บ ช็ด... โอย... แสบ... อื้อ... พี่เคนมันแน่น โอย... ทั้งเจ็บ แสบ แน่น" ผมรู้ว่าลูกพีชเองก็ตื่นเต้นที่ถูกเอาทางด้านหลัง เพราะ เธอแอ่นกันเสียดสีกับตุ้นของผมเป็นสัญญาณให้กระเดาสักที ไม่รอช้ผมค่อยๆ เคลื่อนตัว กระเต้าตุ้นเช้าไปจนสุดทาง ก่อน จะเคลื่อนตัวออกจนลูกพีชผวาตาม แต่แค่จะสุดทาง ผมก็กด กระหน่ำเข้าไปแรงๆ "โอย! พี่เดน! พี่ชูเสียว... โอย..." ลูกพีชครางกระเส่า ส่ายร่อนสะโพกเร่งเร้าให้ผม กระแทกต้นใส่ร่องของเธอไม่ยั้ง ฝ้มือก็เคลื่อนทาบนิ้วมือของ ผมให้สอดใส่ร่องฉ่ำน้ำด้านหน้าเร็วรี่อูย... กระแทกไม่กี่ที ผมก็สุขจนแตกกระจาย ฉีดอัด ความรุมร้อนใส่ร่องด้านหลังของลูกพีชสุดแรง พร้อมกับที่ร่อง ฉ่ำน้ำของลูกพีชตอดรัดนิ้วมือของผมเร็วรี่ "ซี้ด... พี่เดนจ... ชี้ด.. โอว... เมียเสียว... ซื้ด..." เสียงเมียครางกระเส่า ทำให้ผมยิ้มตัวยความสุข ตั้งแต่วันนั้นลูกพีชผู้หัวไวต่อทุกท่วงท่าร่วมเพศก็ได้รับ ท่าสุดติ่งที่เธอชอบมาก เอากันทุกครั้ง ผมต้องสอดปาก สอด ร่องฉ่ำน้ำ และก็สอดใส่ด้านหลัง นั่นถึงจะเรียกว่าเอาครบจบ กระบวน ลูกพีชถึงจะเสร็จสมใจ แต่ถึงลูกพีชจะยอมให้ผมเอาด้านหลังและติดใจจนร่ำ ร้องอยากจะเอาท่วงท่านี้ตลอด แต่ตัวผมเองก็เหมือนไม่สม อารมณ์หมาย ผมยังมีเรื่องสวิกิ้งติดอยู่ในหัวตลอด ทุกครั้งที่ ผมเอาเมียทางด้านหลัง ผมก็จินตนาการว่าลูกพีชกำลังนั่ง คร่อมตุ้นของผู้ชายคนอื่นอยู่แล้วให้ผมเสยต้นใส่บั้นท้ายของ เธอ โอย... ผมจินตนาการแบบนี้เลยครับ ยิ่งเดาตุ้นใส่ บั้นท้ายแรงๆ ผมก็ยิ่งเสร็จสุดๆนานวันผมยิ่งอยากลองของจริง เลยลองหยั่งเชิงลูกพี ชอีกครั้ง เอาบันท้ายผมยังทำให้ลูกพีชติดใจ ถ้าลูกพีชได้มี ประสบการณ์ใหม่ๆ เธอต้องชอบมากแน่ "อะไรนะคะ พี่เคนว่าอะไรนะ" ลูกพีชเงยหน้าจากอกผม เธอมองผมราวกับว่าผมกำลัง แกล้งเธอ หรือผมอาจจะเพี้ยนที่พูดออกไปแบบนั้น แต่ผมพูด จริงทุกคำ "พี่เคนจะให้พี่ช..." "ใช่... พื่อยากลองสวิงกั๋ง พี่อยากเอาลูกพีชต่อหน้าคน อื่น" "ต่อหน้าคนอื่น หมายความว่ายังไงคะ ก็สวิงมันต้อง... แลกคู่กันไม่ใช่เหรอคะ" "ก็ใช่ แต่เราจะแค่ทดลองก่อน แค่ลูกพีชเอากับพี่ แล้ว อีกคู่เขาก็เอากันเหมือนกัน อยู่ในห้องเดียวกัน ให้พี่กับลูกพีชม องเห็นเชา และให้เชามองเห็นพี่กับลูกพีช อารมณ์ก็เหมือนเรา ดูคลิปโอยู่ไง เรียกความตื่นเต้น""พี่เคนอ่ะบ้า... ไม่เอาหรอกค่ะ พีชอาย อยู่ดีๆ จะให้ไป แก้ผ้าให้ใครดู พีชไม่เอาด้วยหรอก ถ้าเขาเอาไปพูดต่อ พีชก็แย่ สิคะ" "ไม่มีใครเอาไปพูดต่อหรอก ทุกคนจะเก็บไว้เป็น ความลับ เจอกันด้านนอกก็ห้ามทักกันนะ รู้กันแค่ในกลุ่ม" "ไม่เอาหรอกค่ะ ยังไงพีชก็ไม่เอา เอ่อ... แต่ถ้าพี่เคน อยากได้แบบนั้น พีช... พีชอนุญาตให้พี่เคนไป... ไปเล่นกับคน อื่นได้ค่ะ พีชจะไม่ห้าม ไม่หึง ไม่หวง แค่พี่เคนมีความสุข" นั่นล่ะครับ ทำยังไงลูกพีชก็ไม่ยอม แต่กลับอนุญาตให้ ผมมาหาประสบการณ์ด้วยตัวเอง ผมก็เลยไปที่บาร์เบียร์ที่ขึ้น ชื่อว่าเป็นแหล่งรวมชาวสวิงกิ้ง เสียวกับ 'ชายเดี่ยว' โปรดดาวน์โหลดฉบับเต็ม ...ชบาแดง...

แฟนเก่าเร้าใจ

แฟนเก่าเร้าใจ ผู้หญิงอย่างดิฉัน ต้องศึกษาเอาเองด้วยความอยาก รู้อยากเห็น ว่าในโลกกว้างใบนี้มีอะไรเจริญก้าวหน้าบ้าง โดย เฉพาะเรื่องเพศสืบพันธุ์ เพราะตั้งแต่เด็ก จะถูกอบรมสั่งสอน จนอื้ออยู่ในรูหู และฝังแน่นจนไม่กล้าขยับตัว แม้แต่นั่งขัดสมาธิ หรือก้มยองๆ เข่าอ้าก็ไม่ได้ กลัว ผู้คนจะมองเป็นจินตนาการว่า อะไรมันจะอ้ไปหมด สยบเรื่อง เพศ ต้องเป็นของผู้ชายอย่างเดียว ดิฉันแต่งงานเมื่ออายุ 23 ปี กับสามีที่ไม่เคยได้รัก กันมาก่อนเลย เป็นเพราะพ่อแม่ตัดสินใจให้ ในเมื่อดิฉันเป็นลูกผู้หญิง ก็จะต้องอยู่ในโอวาท และ เป็นแบบอย่างของขนบธรรมเนียมประเพณี และเป็นลูกที่ดี แน่นอนที่สังคมมีมุมมองอย่างแจ้งชัดว่า ไม่มีพ่อแม่ คนไหนไม่หวังดีต่อลูก และมุมมองความรู้สึกของดิฉันก็เข้าตามนั้น แม้จะเจ็บปวดรวดร้าวปานใด ในเมื่อดิฉันก็แอบมีคน รักอยู่คนแล้ว แต่เพราะได้ประสบเหตุการณ์ร้าย เมื่อดิฉันแอบ นัดแนะเจอคนรัก ตอนหัวค่ำ เราได้ขี่ซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ไปนั่งพูดคุย พลอดรักกัน ประสาหนุ่มสาว ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง เป็นจังหวะที่เปลี่ยว โดยเราไม่คิดว่าจะมีอันตรายอะไร เราเจอคนร้าย 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์มา จอดแล้ว พยายามจะฉุดดิฉัน แฟนดิฉันก็ปกป้องและต่อสู้ จนถูกมืดแทง บาดเจ็บ โชคดีที่มีคนขี่จักรยานยนต์ผ่านมาหลายคัน คนร้าย เลยหนีไป ทิ้งดิฉันไว้ เลยถูกช่วยเหลือ เรื่องถึงตำรวจ ทางบ้านรู้เรื่อง แทนที่จะขอบคุณหรือ ห่วงใยแฟนดิฉันที่อุตส่ห์เสี่ยงชีวิตช่วยเหลือดิฉันกับแฟนกลับ ถูกตำหนิดา หาว่าก่อเรื่องเสื่อมเสีย ดิฉันถูกกีดกัน ถูกจับตา ไม่ยอม ให้คลาดสายตา ดิฉัน ไม่เคยได้ไปเยี่ยมแฟนที่โรงพยาบาลเลย และหลังจากนั้น 1 เดือน ดิฉันก็ถูกเร่งรัดให้รับหมั้นและจับแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่งที่ดิฉันไม่รู้จักอย่างรวดเร็ว ใน ขณะที่ดิฉันรู้ว่า คนรักดิฉันยังไม่ออกจากโรงพยาบาลเลย ดิฉันแอบร้องไห้ แต่ไม่คิดสั้น ทำลายตนเอง เพราะแม่ ดิฉันได้รับมัดจำสินสอดถึง 2 แสน กับทองอีกจำนวนหนึ่งแล้ว ถ้าดิฉันเป็นอะไร พ่อแม่คงต้องลำบากแน่ อย่างไรเสียดิฉันก็จะไม่ยอมเป็นลูกเนรคุณอย่างเด็ด ขาด ยอมทนเจ็บปวดอย่างสาหัส และดิฉันก็ต้องเข้าพิธีแต่งงานอย่างหรูหราและมีเกียรต อย่างใหญ่โต เพราะสามีดิฉันเป็นนักธุรกิจชื่อดัง และเป็นทายาท คนมีนามสกุลใหญ่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ที่มีบุญคุณ ต้องทดแทนกัน ดิฉันไม่ได้เป็นภรรยาคนแรกของสามี เขาเคยมีภรรยา มาก่อน และเลิกกันไป มารู้ที่หลัง เขาเจ้าชู้สุดๆ แต่ที่ยอมแต่งกับดิฉัน ก็เพราะผู้ใหญ่ของเขา และ อีกส่วนหนึ่งก็คือ เขาเห็นดิฉันครั้งแรก ก็มีใจชอบเลย เพราะ ว่าดิฉันสวยน่ารัก เขาอายุแก่กว่าดิฉันถึง 14 ปี แต่นี่ไม่ใช่ปัญหา เมื่อดิฉันแต่งมา ก็ตกอยู่ในสภาพที่เลิศหรูเลย บ้านรถทุกสิ่งอย่าง เกิดอีก 10 ชาติดิฉันก็ไม่มีทางได้พบแบบนี้ แรกๆดิฉันก็เพลิดเพลินกับวาสนาตนเอง และค่อยๆ บรรเทาเบาบาง ถอดเอาความเจ็บปวดออกไปได้ คิดตกเรื่องโชค วาสนา เรื่องเนื้อคู่ชีวิตที่ต้องถูกลิขิตให้เป็นไปกับสามีช่วงข้าว ใหม่ปลามัน หลังจากวันแรก ที่เขาได้เปิดบริสุทธิ์ของดิฉัน ดูเขา ภาคภูมิใจ เพราะเขาบอกภรรยาคนแรกของเขา เคยผ่านผู้ชาย มาก่อนจะได้กับเขา สามีดูจะรักและหลงใหลดิฉันมาก แทบจะไม่ยอมให้ ห่างกายเขาเลย และที่สำคัญเขาจะมีเซ็กส์กับดิฉันทุกวัน โดยเฉพาะ เสาร์อาทิตย์ จะพาดิฉันไปตามสถานที่ตากอากาศ ชายทะเล น้ำตก ภูเขา เสมอ ดิฉันยอมรับว่าชุ่มฉ่ำใจมาก ดิฉันเพิ่งรับรู้เรื่องเช่นนี้ เมื่อตอนเจอสามีปรนเปรอ ก็ ติดใจในรสชาติ สลัดความอายความเขิน รื่นเริงบันเทิงใจ จน กลายเป็นกล้าได้กล้าเสีย ดิฉันยอมรับว่ามีความต้องการในเรื่องเซ็กส์มาก ตาม ที่ได้รับมันจนติดเป็นนิสัยดิฉันเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองไป อย่างหน้ามือเป็นหลังมือ มีอารมณ์สนุกสนาน ปนกะเล้นขึ้น กล้าพูดกล้าจามาก ขึ้น หยอกล้อแบบสองแง่สองง่าม แบบแม่ค้าปากตลาด แต่ไม่ พร่ำพรื่อ 3.4บีให้หลังลิเกย่อมมีวันเก็บฉากงี้วย่อมมีการลาโรง สามีดิฉันดูเนื่อยๆไปในเรื่องนี้ในขณะที่ดิฉันยังมีไฟลุกโชน โหม กระหน่ำอีกต่างหาก สามีไม่ตามติด ไม่ใกล้ชิด และแสดงออกถึงความ ห่วงใยเหมือนแต่ก่อน โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ที่แต่ก่อนพอใกล้ ก็ติดปุ๊บเปิด ปั๊บ แต่ตอนนี้ดูจะผลักไส ต่อรอง บอกเหนื่อยบอกเพลีย กว่า จะได้ที่ ต้องจุดธูปบนบานกัน ดิฉันขัดเคืองใจ ไอ้ที่อยากแล้วไม่ได้ ตรงนี้คือปัญหา อยากแล้วมีสามีเคียงข้าง แต่ไม่ร่วมมือ คออ่อนคอพับ จะตั้ง ฉากให้ตรงนั้นคงลำบาก ก็พวกเล่นกรนกันสนั่นลั่นห้อง จะข่ม ขืนหรือก็ลำบาก ไม่เหมือนเมื่อก่อน สามีเคยข่มขืนดิฉันบ่อยๆ เมื่อดิฉัน ไม่พอใจเขา แต่เขาก็ข่มขืนดิฉันได้ เพราะอวัยวะเพศหญิงไม่สมยอมก็ถูกบอมได้ ไม่เหมือนชาย แทบจะละลายเข้าในเนื้อ ปัญหาเริ่มเกิด แรกๆก็ขัดๆเดืองๆ คิดว่าคงเป็นแบบ นี้สักระยะ แต่ที่ไหนได้ นานวันก็ยิ่งเลวร้าย ไม่เอาไหน แถม ไม่เอาถ่านเลย ชาร์จอย่างไรก็ไม่ติด เหมือนไม่มีใจจะคิด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ทุกคืนแทบจะอิงแอบ หนุนนอนเป็น หมอนเลย ทั้งจูบทั้หอมอย่างไม่รู้จักเบื่อกลิ่นคาว เราเองยัง เขินที่รู้ว่ามันสะอาดไม่พอ เมื่อความกดดันเริ่มตกตะกอน ดิฉันร้อนฉ่าไปทั้งตัว ยิ่งภายในกระเล่าเต้นเร่าๆ โดยเฉพาะอารมณ์เสี้ยน มันเปรี้ยว มันกระหาย แทบอยากกระโดดตึกลงมาเสียบเสาไฟฟ้า หรือ หลักกิโลเลย สามีก็ช่างไม่เอาไหน เหลวไหลปล่อยปละละเลย เงิน ทองมีให้เหลือเฟื้อ แต่นั่นมันช่วยไม่ได้ ความต้องการมันไม่ได้ อยู่ตรงนั้น ทรมานอย่างแสนสาหัสมาเกือบปี ทนได้ยังไงไม่รู้ และก็มามีอันเจออุบัติเหตุจนได้ เมื่อครั้งดิฉันกลับไป เยี่ยมหาพ่อแม่ เลือกซื้อสิ่งของฝากที่หง ก็ได้เจออดีตแฟนเก่า เขามาซื้อของเช่นกันดีใจได้พบ พูดคุยพอเป็นพิธี เพราะมีผู้ใหญ่อยู่ แต เขาแอบให้เบอร์ดิฉันไว้ และจุดนี้เอง กว่าดิฉันจะตัดสินใจโทรก็อีก 2 เดือน ให้หลัง เมื่อสามีไปทำงาน ไม่ได้กลับมาเป็นคืนที่ 2 ดิฉันได้พูดคุยกันแฟนเก่า เขาบอกว่ามีภรรยาแล้ว ตอน นี้กรรยาเขากำลังใกล้คลอด เราก็คุยกันด้วยดี แต่เน้นหนัก ทางเรื่องความหลัง ดิฉันสารภาพผิด เรื่องหนีเขาไปแต่งงาน แต่ก็แจงเหตุ และผล ดูแฟนเก่าเข้าใจ แต่เขาบอกว่าอยากเจอดิฉันสักครั้ง ซึ่งตอนนั้น ถ้าเป็นปกติ แน่นอน ดิฉันต้องปฏิเสธ แต นี่ดิฉันกลับใจเต้นร้อนเร่า รีบตอนรับ ยินดีพบอย่างไร้ยางอาย เราได้นัดเจอกัน ก็ตั้งใจแค่คนรู้จักได้มาพบกัน แต่ 2- 3 วันที่ผ่านมา สามีดิฉันมีปฏิกิริยา เหมือนอยากสลัดดิฉัน ไม สนใจใยดีดิฉันเลย จุดนี้เองที่ดิฉันความคิดไปในทางเลวร้าย และความ อดกลั้นมันสะท้าน ดิฉันมีมุมมองออกว่า ถ้าเป็นไปได้ ดิฉันกล้ำที่จะเสนอ ให้อดีตแฟนเก่าช่วย ก็เราเคยโอบกอดจูบกันมาแล้ว เหลือแค่"ดื่มเบียร์กันก่อนนะครับ เดี๋ยวค่อยกลับ" "ได้ค่ะ" ดิฉันดื่มเบียร์ไม่เป็นหรอกค่ะ แต่รู้สึกคอแห้ง จึงจิบ ไปนิดเดียวพอให้ชุ่มคอ เรานั่งคุยกันต่ออีกสักพักในชุดผ้าขนหนูปกปิดร่าง ตอนดิฉันเอื้อมมือไปตักกับแกล้มทาน ปมผ้าขนหนู ที่คาดหน้าอกหลุด ผ้าขนหนูจึงหล่นมากองที่เอว ปล่อยให้ทรวง อกอวบใหญ่ของดิฉันโดดเด่นเป็นอิสระ ".อุ๊ย" ดิฉันรีบเอาผ้าขนหนูขึ้นปิด แม้ว่าเขาจะเห็นหมดแล้ว ตอนร่วมรักกัน แต่พอเสร็จกิจก็เกิดความอาย เป็นธรรมดาของ ผู้หญิง "หน้าอกคุณสวยมากครับ ผมชอบ" "แน้... อย่ามาปากหวานเลย" "จริงๆครับ เมื่อกี้ผมเห็นแค่แป็บเดียว เกิดอารมณ์เลย ไม่เชื่อดูสิครับ" พูดจบเขาก็เปิดผ้าขนหนูให้ดิฉันดู โอโห... คุ้นเขามัน ตั้งเด่ ทั้งแข็งทั้งใหญ่กว่าของสามีดิฉันมากดิฉันขึ้นไปนอนบนเตียงแฟนเก่าดิฉันก็ขึ้นมานอนข้างๆ เขาเริ่มวาดลวดลายใส่ดิฉันทันที เริ่มจากการโจมตีที่ทรวงอกฉันด้วยปากและลิ้น เขา ทำให้ดิฉันถึงกับสะท้าน ความรู้สึกตื่นเต้นที่เขาไม่ใช่สามี ทำให้ ดิฉันวาบหวิวเป็นอย่างมาก เขาทั้งดูดทั้งบีบ และเคล้นคลึงจนหน้าอกดิฉันแทบ ระบม แต่ก็รู้สึกสะใจอย่างสุดๆ เมื่อเล่นหน้าอกดิฉันจนหนำใจแล้ว เขาก็เปลี่ยนมา โจมตีเบื้องล่างฉันต่อ ลีลาเขาต่างกันสามีดิฉันมาก ไม่เหมือนกันเลย เขาใช้ ทั้งลิ้น ทั้งปลายจมูก และนิ้วมือ สลับกันอย่างกลมกลืน เล่น เอาดิฉันหายใจแทบไม่ทัน และสุดท้าย ความรู้สึกของดิฉัน เหมือนเขาใช้คางขยี้ เบาๆที่กึ่งกลางปากถ้ำฉัน ได้ความมันส์ไปอีกแบบ "เราเริ่มกันเลยนะครับ ที่รัก" ดิฉันพยักหน้าแทนคำตอบ อยากขั้นรุนแรงแล้ว เขา ค่อยๆดันคุ้นแข็งเข้ามาช้ๆ โอ้ว... รู้สึกว่ามันแน่นกว่าของสาม ดิฉันอีก คงจะใหญ่กว่าแน่ แต่ดิฉันไม่กล้ามองเขาเริ่มขยับสะโพกขึ้นลงแบบเนิบๆนาบๆ ไม่เร่งร้อน ปล่อยไปตามอารมณ์ ก็ถือว่าสร้างอารมณ์ให้ดิฉันได้ดีทีเดียว เพราะได้เปลี่ยนคุ้นใหม่ที่ใหญ่กว่า "อือ... อา..." เสียงดิฉันครางออกมาเบๆ ความสุขแบบนี้แหละที่ ดิฉันต้องการและโหยหา สามีดิฉันห่างเรื่องแบบนี้มานาน พอ เจอเข้า มันช่างเปี่ยมสุขเสียจริงๆ เขาเร่งความเร็วขึ้นแล้ว ความมันส์ก็เพิ่มขึ้นตามความ เร็ว ดิฉันมันส์จนลืมตัว ดังสะโพกรับเพื่อเพิ่มความรุนแรงใน การเสียดสีขึ้นอีก "อูย... สุดยอดจริงๆ" คราวนี้เป็นเสียงเขาครางบ้าง ต่างคนต่างมีความเสียว ซ่านไม่แพ้กัน ดิฉันรับรู้ความรู้สึกของเชาได้ และเมื่อความมันส์มาถึงขีดสุด เราต่างก็พ่นของเหลว ออกมาใส่กันจนฉ่ำแฉะด้วยกันทั้งคู่ เราทั้งสองนอนหายใจแรงเพราะความเหนื่อย สักพัก เขาก็ลุกขึ้นไปเช้าห้องน้ำ ออกมาก็สั่งเบียร์สองขวด พร้อมกับ แกล้มขั้นตอนสุดท้ายเท่านั้นที่ยังไม่ได้ทำกัน แล้วนี่ เมื่อต่างคนต่าง ผ่านอะไรๆมาแล้ว จะเป็นไรไป ที่จะถึงจุดนั้น ยิ่งเมื่อสามีไม่สนใจตัวเรา จะเป็นไรไป คู่เก่าขาเก่า อย่างน้อยก็อายไม่มาก เขินไม่เกินร้อย ง่ายกว่าที่จะหาคนที่ไม่ เคยรู้จักเป็นไหนๆ และเรื่องมันก็ง่ายอย่างที่คิด เมื่อดิฉันเป็นคนเอ่ยขึ้น ว่าอยากตอบแทนบุญคุณแฟนที่เคยช่วยเหลือดิฉันครั้งนั้น และ อดีตที่ไม่สมหวัง ใจก็ร้าวราน เมื่อมีโอกาส ก็ควรจะทำให้มัน สมหวัง อดีตจะได้ไม่สูญเสียไปเปล่าๆ พูดเพียงเท่านั้น แฟนเก่าดิฉันก็ประคองพาดิฉันเลี้ยว เข้าโรงแรมทันที ไม่ต้องพูดอะไรกันมาก มองตาก็รู้ใจ เมื่อเข้ามาในห้อง ความต้องการมันพลุ่งพล่าน เราโผ เข้ากอดกันแน่นด้วยความรักและความคิดถึง เราจูบปากกันอย่างดูดดื่ม มือไม้ของเราก็ต่างลูบไล้ ตามเรือนร่างซึ่งกันและกัน อารมณ์พิศวาสพุ่งขึ้นอย่างสุดกลั้น กอดจูบกันจนหนำใจแล้ว เราก็ถอดเสื้อผ้าจนเหลือ แต่ร่างเปลือยเปล่า ต่างคนต่างมีประสบประการณ์ในเรื่องนี้มา แล้ว ก็ไม่ต้องพูดอะไรกันมากนี่สมมุติว่า ถ้าต่างไม่มีภาระ เราคงจะอยู่ด้วยกันทั้งวัน และคืน ไม่จากกันไปไหน ดิฉันไม่ง้อสามี ไม่มีใจที่จะแยแสเสียด้วยซ้ำไป จะมา จะไปก็เชิญ ไม่เหมือนเมื่อก่อน ที่ดิฉันยังไม่เจอแฟนเก่า ดิฉันยัง คอยเอาใจใส่ดูแล หวังเผื่อฟลุคเผื่อได้ แต่ตอนนี้เหมือนคนไม่ รู้จักกัน ไม่เหลือบตาแลเสียด้วยซ้ำ สามีเองก็พอจะรู้ว่าผิดสังเกต แต่ก็ไม่โวยวายอะไร เขา อาจมีเหตุผลของเขา ความสัมพันธ์ความสุขเสียวที่เราต่างลักลอบด้วยกัน ดูมันช่างมีค่า มีความหมาย และเร้าใจอย่างสุดๆ ไม่เบื่อ มีแต่ ใฝ้ฝันคะนึงหา กระหายหิวอย่างสุดๆ กว่า 5 เดือน ที่เราเชือดเฉือนกัน แต่ความลับไม่มีในโลก เมื่อเมียของแฟนเก่าจับได้ และ ได้แอบนำเรื่องนี้มาบอกสามีดิฉัน เท่านั้นก็เป็นเรื่องเลย สามีดิฉันดูคิดได้ มากกว่าจะโกรธเกลียดดิฉัน กลับ สารภาพผิด ที่ทอดทิ้งและไม่ใส่ใจ เพราะงานที่รับเหมาจากทาง การมันขาดทุน แต่ต้องยอมทำ เพื่อได้งานใหม่ ที่ใหญ่กว่านี้ดิฉันเห็นแล้วรู้สึกน้ำเดินขึ้นมาทันที "เราต่ออีกครั้งไหวไหมครับ" "อะไร คุณยังไหวอีกหรือคะ" "อันนี้ต้องลองครับ" ว่าแล้วเขาก็พาดิฉันขึ้นเตียงอีกครั้ง คราวนี้ดิฉันไม่มีความเขินอายหลงเหลือแล้ว พอขึ้น เตียงได้ ดิฉันก็จับคุ้นแข็งของเขาเข้าปากทันที ดิฉันเคยทำให้สามีมาแล้ว มีวิทยายุทรพอสมควร จึง โชว์การใช้ปากให้เขาอย่างเต็มที่ ดูเขาจะพอใจไม่น้อย "อย... คุณใช้ปากเก่งเหมือนกันนี่ ซื้ด..." ดิฉันใช้ปากให้เขาได้สักพัก จนเขาทนไม่ไหว ลุกขึ้นมา ขย่มดิฉันอย่างไม่ยั้ง เราผลัดกันขึ้นบน เขาบ้าง ดิฉันบ้าง เรื่องความมันส์ ไม่ต้องพูดถึง แทบจะสำลักกันเลย เราตกเบิกแถมเกินดอกเบี้ย เสียจนกระทั่งเราทั้ง 2 หมดแรงจริงๆ สมใจอยาก เมื่อได้เปิดเส้นทางครั้งแรก ก็มีครั้ง 2-3 ตามมาอย่าง กระชั้นชิด ถี่อีกต่างหากและตอนนี้ก็สำเร็จแล้วพอดี เลยขอแก้ตัวด้วยการ ประพฤติปฏิบัติกับดิฉันดังเดิม ซึ่งดิฉันก็ได้ยุติบทบาทกับอดีต แฟนเก่าทันทีเช่นกัน นี่เกือบไปสำหรับอุบัติเหตุของชีวิตถสามีดิฉันไม่ยอม รับ หรือมีสติที่กว้างไกล เรื่องเลวร้ายคงเกิดอย่างแน่นอน 4 ชีวิตคงต้องตกนรก รับกรรม แต่นี่กลับขึ้นสวรรค์ บ้านใครบ้านมัน คู่ใครคู่มัน แต่อย่างไรดิฉันก็ขอไถ่บาปสารภาพผิด ว่าจะไม่คิด ทำอะไรแบบนี้อีกเลย เสียใจเสมอเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เสียสติิ จริงๆค่ะ...

เรื่องอดีตเป็นตัวช่วย

เรื่องอดีตเป็นตัวช่วย ผมชื่อบอย แต่งงานกับแพรวได้กว่า 12 ปี มีลูกแล้ว 1 คน เป็นผู้ชาย แล้วผมก็ทำหมัน ผมกับแพรวรักกันมาก่อนจะได้แต่งงานซะอีก แต กว่าเราจะได้แต่งงาน ก็มีวีรกรรมอย่างสาหัสสากรรจ์ เพราะ พ่อแม่เธอไม่ชอบผม ที่ผมเป็นคนไทย ผิวสืออกจะคล้ำๆ แพรวเป็นลูกเชื้อสายจีน มีฐานะพอสมควร ผมมีพ่อ รับราชการครู แม่เป็นแม่บ้าน แต่ก็ทำอุตสาหกรรมในครอบครัว ช่วยคุณพ่อ คือทำขนมขาย ผมเป็นเพื่อนร่วมห้องเรียนของแพรว และสาเหตุที่ เรารักกัน ก็เพราะผมบังเอิญได้ช่วยแพรวไห้พ้นจากอันตราย ในเย็นวันศุกร์ หลังเลิกเรียน ผมซ้อมกีฬาอยู่ในห้อง ยิม ส่วนแพรวอยู่ห้องสมุด และอยู่เป็นคนสุดท้าย ในขณะที่ ทุกคนในห้องสมุดกลับหมด คุณครูคิดว่าไม่มีใครอยู่ ก็พากันลงมาจากชั้นบนอาคารเรียน ภารโรงเข้าไปปิดห้องสมุด เจอแพรวเป็นลมฟุบอยู่ มี กองหนังสือบัง จึงไม่มีใครเห็นแพรว ภารโรงคิดไม่ดี จับแพรวนอนหงายบนพื้น และถอด ชุดกระโปรงจนร่างเธอเปลือยเปล่า เพื่อจะทำการข่มขืน และบังเอิญวันนั้นผมดันลืมของ คือลูกกุญแจเข้าบ้าน ลืมไว้ที่โต๊ะเรียน ผมจึงวิ่งขึ้นไปเอาที่ห้องเรียน และต้องผ่านห้อง 0용 ผมเหลือบไปทางห้องสมุด เห็นภารโรงแก้ผ้า กำลัง ยองๆลงไป ผมสงสัย เลยพรวดเข้าไปดูเลย ตอนนั้นก็ไม่ได้คิด หรือกลัวอะไร ก็เจอะภารโรกำลังยงโย่ยงหยกอยู่ รู้สึกจะกำลังพยา ยามข่มขืนผู้หญิงที่นอนหงายอยู่ แต่คงมีอุปสรรคบางอย่าง ภารโรงเห็นผมก็ตกใจ ลุกขึ้นวิ่งหนี ผมก็เอะอะโวยวาย ให้คนรู้ เพราะรูปร่างภารโรงสูงใหญ่ ผมกลัวสู้ไม่ได้ ครูอาจารย์ ที่อยู่ด้านล่างที่ยังไม่กลับ ก็พากันกรูขึ้นมา ผมเห็นแพรวดูสะลืมสะลือ ตื่นขึ้นก็ตกใจ ที่เธอแก้ ผ้าเปลือยเปล่า ผมยอมรับว่าเห็นเรือนร่างของแพรวหมดเลยแพรวรีบคว้าเสื้อกระโปรงและชุดชั้นในสวมใส่ พอดี กับครูอาจารย์มาถึง เมื่อรู้เรื่องที่เกิด ครูอาจารย์ก็รีบตามภารโรง แต่ปรากฏว่าเขาหนีหายจากบ้านพักไปเลย เรื่องนี้มีรู้แค่ 5 คน คือผม แพรว และอาจารย์อีก 3 คน ก็ตกลงจะไม่พูดหรือบอกเรื่องนี้กับใคร อย่างน้อยก็เพื่อชื่อ เสียงแพรว และชื่อเสียงโรงเรียน เป็นอันตกลงกันตามนี้ เมื่อผมถามแพรวว่าไม่รู้สึกเจ็บปวดร่างกายอะไรบ้าง มั้ย แพรวก็ยืนยันว่าปกติดี ไม่ได้เจ็บปวดอะไร แพรวดูจะอายผมมาก ที่ผมได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างใน ตัวเธอทั้งหมด ผมรู้ว่าผมได้เป็นฮีโร่ เป็นวีรบุรุมในหัวใจเธอ ซึ่งถ้า เธอไม่บังเอิญได้ผมมาช่วย ป้านนี้สภาพเธอคงเลวร้ายกว่านี้ แต่ความข้องใจที่ฝังอยู่ในสมองผมก็คือ ภารโรงมัน ได้ไอ้แหย่ไอ้นั่นเข้าไปในตัวหรือไม่มันดูคล้ายกับไม่คล้าย เพราะ ผมเห็นลักษณะท่าทางของไอ้ภารโรง มันกำลังขย่ม ที่ผมคาดเดาเช่นนี้ อาจจะผิดพลาดก็ได้ แต่เมื่อแพรว ยืนยันว่าไม่มีอะไร ทั้งครูอาจารย์และผมก็ง่ายต่อการปิดเรื่องนี้ ตั้งแต่วันนั้น แพรวจะคบหาและสนิทสนุมกับผมอย่างทันที่ทันใด แพรวดวงคู่ไปกับผม ผมอยู่ตรงไหนต้องมีแพรว อยู่นั่น มันรวดเร็วจนเพื่อนงงไปตามๆกัน เดาไม่ออกว่าผมไป จีบแพรวตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงผมจีบยังไงก็จะไม่เร็วขนาดนี้ ดูแพรวดล้ายหึงหวงผมมาก ไม่ให้ผมคลาดสายตาเลย ผมเลยถูกกล่าวขวัญ วิพากษ์วิจารณ์จากเพื่อนๆกันสนุกปาก ในส่วนตัวผมคิดว่า แพรวดงกลัวผมจะเปิดเผยความ ลับ เลยตามประกบผม ไม่ปล่อยให้ผมได้พูดคุยกับใคร แต่แพรวก็เอาใจผมดี ทั้งข้าว ขนม เธอจัดหาให้ผมเสร็จ ดีที่บ้านเธอมีเงิน ผมเลยสบาย เป็นที่อิจฉาของเพื่อนทุกคน อ้อ สำหรับแพรวแล้ว เธอขาว สวย แบบหมวย น่ารัก ใส ซื่อสะอาด รูปร่างกะทัดรัด เราเลยกลายเป็นแฟนกันโดย ปริยาย และเราก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องห้องสมุดกับภารโรงเลย และปีสุดท้าย ผมกับแพรวก็ได้มีความสัมพันธ์กันจน ได้ เป็นเพราะแพรวเรียกร้องต้องการมากกว่า ส่วนผมไม่กล้าคิด เพราะว่ายังเรียนอยู่ ได้แค่กอดจูบก็ว่าเลิศแล้ว วันนั้นผมจำได้ดี ทั้งผมและแพรวต่างก็ยังใหม่ในเรื่อง แบบนี้ด้วยกันทั้งคู่ จึงไม่ค่อยราบรื่นเท่าที่ควรเราตัดสินใจเป็นของกันและกันด้วยความเต็มใจ จึง นัดเจอกันที่ห้องพักเพื่อนของผม โดยผมให้เงินเพื่อนออกไป เที่ยวข้างนอก เมื่ออยู่ในห้องสองคนกับแพรวผมไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี ผมเคยมีประสบการณ์เที่ยวซ่องมาไม่กี่ครั้ง จึงยังไม่ค่อยประสี ประสาในเรื่องแบบนี้เท่าไหร่ "แพรวแน่ใจหรือเปล่า" ผมถามแพรวแบบกล้าๆกลัวๆ "แน่ใจ 100 เปอร์เซนต์" พูดจบแพรวก็ถอดเสื้อผ้าออกจนหมด แล้วนั่งที่ชอบ เตียง ผมยืนนิ่ง ทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ค่อยๆถอดเสื้อผ้าตัวเอง ออกบ้าง ผมได้แต่ชำเลืองมองไปยังเรือนร่างเธอ "ไม่ต้องแอบมองหรอก บอยเคยเห็นหมดแล้วนี่" "เอ่อ... เห็นแว่บๆ ไม่ได้เห็นชัดๆแบบนี้" ความที่ผมยังเป็นไก่อ่อนอยู่บวกกับความตื่นเต้นทำให้ ไอ้หนูผมมันยังไม่ค่อยสู้เท่าไหร่ พอผมถอดเสื้อผ้าออกหมด รู้สึกอาย จึงเอามือปิด ไอ้หนูเอาไว้ แพรวดูจะกล้กว่าผม ดึงมือผมเข้าไปนั่งข้างเธอผมต้องเป็นฝ้ายให้แพรวเริ่มก่อน บอกตรงๆ ผมยัง ไม่ค่อยกล้าจริงๆ แพรวเห็นผมนั่งนิ่ง ก็กอดผม หอมแก้มผม ลูบไล้ แผงหน้าอก แล้วเลื่อนต่ำลงมาที่หนท้อง คงยังไม่กล้าจับไอ้ หนูของผมที่มันเริ่มขยายตัวขึ้นบ้างแล้ว ผมไม่ปล่อยให้แพรวรุกฝ่ายเดียว บีบไปที่เต้างามเธอ บ้าง เขี่ยเม็ดทับทิมเธอเร็วๆ ดูเธอขนลุกซู่เลย คงจะสยิวเหมือน กัน มือไม้เธอเริ่มสั่นๆ ถึงนาทีนี้ไม่ต้องอายกันแล้วไอ้หนูผมมันแข็งเต็มที่แล้ว ผมจับแพรวนอนหงาย แล้วนอนทับเธอทันที่ ความที่ผมยังไม่ ประสีประสา จึงไม่ได้มีการปลุกเร้าอะไรให้มากความ ผมจับไอ้หนูยัดเข้าไปในปากถ้ำของเธอ แต่มันเข้ายาก มาก ดันเท่าไหร่ก็ไม่เข้า แสดงว่าเธอคงยังไม่เคยผ่านเรื่องนี้มา หรือถ้าเคยก็คงผ่านมาน้อยมาก ผมต้องเปลี่ยนแผน ยังไม่ยัดเข้าไป เอาปลายของไอ้ หนูผมเขี่ยเล่นที่ปากถ้ำของเธอก่อน แบบนี้ก็เสียวดีไปอีกแบบ เห็นแพรวนอนเกร็งตัว กัด ริมฝีปากแน่น ผมรู้สึกมีน้ำลิ่นๆออกมาที่ปากถ้ำจนแฉะไปหมดจริงๆ ดูท่าทางแพรวก็คงไม่ต่างจากผม เราทำกันไปมองตากันไป เหมือนจะสื่อถึงความรักที่ มีต่อกันอย่างสุดหัวใจ ตอนใกล้จะถึงสวรรค์ แพรวดงมีความสุขจนลืมตัว ม ขยับสะโพกเด้งรับผมอีก ทำให้ผมรู้ว่าเธอใกล้เสร็จแล้ว "เราเสร็จพร้อมกันนะ" แพรวไม่ตอบ ได้แต่พยักหน้า ผมจึงเร่งความเร็วของ สะโพกขึ้นอีก ความเสียวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงขีดสุด ต่างคนต่างเกร็งตัว หลั่งของเหลวออกมาจนแทบไม่ เหลือ แล้วเราก็นอนกอดกันอย่างมีความสุข เมื่อมีหนึ่ง สอง สามสี่ก็ตามมา เราหลงใหลเสน่ห์ที่ ป้อนให้แก่กัน แรกรักแรกใคร่ หวานมันส์ฉ่ำจนติดใจ การเรียนตกต่ำ ผมพอไหว แต่ของแพรวไม่เอาไหนเลย พ่อแม่เธอพอรู้สาเหตุว่าเป็นเพราะแพรวมาคบกับผม เลยอ้างเอาตรงนี้ สั่งแพรวมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ผมก็เสียใจ แต่ก็เรียนจบจนได้ และได้ตามแพรวเข้ากรุงเทพฯ ก่อนหน้าเราโทรกันทุกวัน พอพ่อแม่แพรวรู้ ก็จะเอาจริงๆ ดูท่าทางแพรวก็คงไม่ต่างจากผม เราทำกันไปมองตากันไป เหมือนจะสื่อถึงความรักที่ มีต่อกันอย่างสุดหัวใจ ตอนใกล้จะถึงสวรรค์ แพรวดงมีความสุขจนลืมตัว ม ขยับสะโพกเด้งรับผมอีก ทำให้ผมรู้ว่าเธอใกล้เสร็จแล้ว "เราเสร็จพร้อมกันนะ" แพรวไม่ตอบ ได้แต่พยักหน้า ผมจึงเร่งความเร็วของ สะโพกขึ้นอีก ความเสียวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงขีดสุด ต่างคนต่างเกร็งตัว หลั่งของเหลวออกมาจนแทบไม่ เหลือ แล้วเราก็นอนกอดกันอย่างมีความสุข เมื่อมีหนึ่ง สอง สามสี่ก็ตามมา เราหลงใหลเสน่ห์ที่ ป้อนให้แก่กัน แรกรักแรกใคร่ หวานมันส์ฉ่ำจนติดใจ การเรียนตกต่ำ ผมพอไหว แต่ของแพรวไม่เอาไหนเลย พ่อแม่เธอพอรู้สาเหตุว่าเป็นเพราะแพรวมาคบกับผม เลยอ้างเอาตรงนี้ สั่งแพรวมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ผมก็เสียใจ แต่ก็เรียนจบจนได้ และได้ตามแพรวเข้ากรุงเทพฯ ก่อนหน้าเราโทรกันทุกวัน พอพ่อแม่แพรวรู้ ก็จะเอาแพรวกลับอยู่บ้าน ไม่ให้เรียนต่อ เพราะรู้ว่าผมจะเข้ากรุงเทพฯ ไปหาแพรว พูดง่ายๆ คือจะพยายามกีดกันผม โดยไม่รู้ว่าผม กับแพรวได้เสียกันหลายครั้งแล้ว และแพรวเองก็รักหลงผม พอเจอกันที่กรุงเทพฯ แพรวตัดสินใจไม่กลับ หนีพ่อ แม่ เธออยู่กับผม ผมเลยต่อรามด้วยการทำงานหาเงินไปด้วย แพรวก็ช่วยทำงาน และต่อรามเช่นเดียวกับผม เราอยู่ด้วยกันฉันท์ผัวเมีย ด้วยวัยแค่ 19 ปี ทำงาน เช่าบ้านอยู่ และเรียนไปด้วย จนจบปริญญาด้วยกัน ผมได้งานดี มีตำแหน่ง พ่อแม่ ของแพรวก็เลยจำใจ ให้เราแต่งงานกันในที่สุด คือผมกับแพรวโตพอรับรู้ และมีความรับผิดชอบตัว เองได้ ยิ่งเมื่อมีลูก ก็ดูจะรู้คุณค่าของชีวิต เรามีความสุข ผมมีหน้าที่การงานดี งินเดือนสูง ส่วน แพรวก็รับทำงานที่บ้าน แผนกบัญชีภาษีอะไรทำนองนั้น เรามีบ้านมีรถเป็นของตัวเอง และอยู่กันมา 12 ปี ตาม ที่บอกไว้ 2 ปีหลังผมกลับแพรวไนเรื่องบทเซ็กส์ เริ่มเนือยๆ เพราะจำเจซ้ำๆกันมานาน ไม่ค่อยตื่นเต้นเร้าใจอะไร รู้แต่เพียงต่างทำหน้าที่ ที่ธรรมชาติบงคารมา ไม่ถี่เหมือนก่อน มันเบื่อๆ ไม่เร้าใจอะไร ก็ของมันเก่าแล้วนี่ ไม่ใช่ผมคิดคนเดียว แพรวก็เป็นเช่นกัน 2 ปีหลังมานี้ ผมกับแพรวจะหนักไปทางออกสังคม ชื่นชมกับวงสังคมที่ฉาบด้วยความหรู และมีหน้ามีตาเท่านั้น กลับถึงบ้าน สลบแทบคลานถึงเตียง ไม่ทันไรก็กรุนกันเลย การอยู่ร่วมในชีวิตประจำวัน มันเหมือนเครื่องยนต์กล ไค ไขลานใส่ถ่าน ไม่มีจิตใจอย่างมนุษย์ที่สดใสมีความสุขอย่าง ปุถุชนคนทั่วๆไป ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินทอง แต่สะท้อนความไม่มีความ สุขกับการครองคู่ อยู่กันเหมือนแค่คนรู้จัก รู้ใจกันแค่การกิน การนอน แต่กับอารมณ์ความเสียวซ่าน การเสพสุขร่วมรักกัน ระหว่างผัวเมีย (หญิงชาย) ไม่มีเลย เหมื่อนเรือเกยตื้นไม่สะอื้น แต่สูงบนิ่ง และแล้วก็มีเรื่องสุดมหัศจรรย์ เมื่อเราได้พบจุดระเบิด กระสันต์อย่างเหลือเชื่อ เมื่อแพรวได้ต่อว่าผมในคืนวันหนึ่ง ที่ผมกลับดึก กับ การเมาพอประมาณ แพรวได้พูดเหน็บแนม ทำนองว่า ผมคงไปเที่ยวสำส่อนมาเป็นแน่ ถึงได้ออกอาการเบื่อหน่ายเธอ ผมก็ปฏิเสธ บอกไม่ใช่เช่นนั้นเลย ผมดื่มกินกับเพื่อน ที่สโมสรบริษัท แต่เธอไม่พยายามเชื่อ ก็เลยเถียงกันอย่างจะ เอาแพ้ชนะกันขึ้น ดีที่ลูกไม่ได้อยู่ด้วย ก็เลยกล้เสียงดัง แพรวเกิดขั้วหลุด โยกโยเอาเรื่องเก่าๆมาอ้ง ว่าที่เธอ เทใจให้ผม เพราะเห็นใจ และมั่นใจว่าผมต้องเป็นคนดี มือนาคต พอที่จะฝากฝังได้ ผมเลยหน้ามืด น็อตหลุด ก็ลืมตัว อ้างเอาเรื่องของ เธอที่ถูกการโรงข่มขืน ว่าผมโง่หรือเปล่าล่ะ ที่ต่อคิวการโรง เท่านี้เรื่อง เลยเหมือนระเบิดลง เธอร้องไห้ สติแตก แหกปากลั่น เพราะเธอไม่คิดว่า ผมจะเอาเรื่องนี้มาพูด เพราะ ตลอดกว่า 15 ปี ผมไม่เคยพูดเลย "แล้วมาเอาฉันทำไม" ผมก็สติแตก พูดแดกดันอย่างขาดสติ "ก็คิดว่ามีคนนำทางบุกเบิกให้ จะได้สะดวกโยริน ไม ต้องเสียเวลาคลำหาทาง" แพรวถึงกับกำมีดจะฆ่าตัวตาย ผมก็กระโจนเข้าห้าม และได้สติ ว่าผมเกินเลย และผิดมากที่ตระบัดสัตย์กับตัวเองทั้งที่เก็บงำมาถึงเกือบ 15 ปี แพรวเสียใจมาก ผมปลอบเธอ ผมถึงกับยกมือไหว้ขอ โทษเธอเลย ผมเสียสติ ขาดความรู้สึกสำนึกคิดที่ดี ดูเธอค่อยๆคลายความโกรธ และเราก็เริ่มเข้าใจกัน เธอ ก็ขอโทษผมเช่นกัน ที่เธอลืมตัว หาเรื่องผมก่อน "ก็คนมันรัก มันหวงห่วงนี่" เธอพูดเสียงสั่น เหมือนจะร้องไห้ ผมต้องโอบกอดเธอ ไว้ เป็นการปลอบ เธอก็กอดผมตอบ ความรู้สึกผมบอกไม่ถูกเมื่อหน้าอกเธอเบียดกับอกผม ทั้งที่เคยบีบเคยจับมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้มันพิเศษจริงๆ ไอ้หนูผมมันแข็งขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่น่าเชื่อ ทั้งที่ก่อน หน้านี้เวลาผมอยู่ใกล้กับเธอ ไม่เคยรู้สึกอะไรเลย อาจเป็นเพราะ เราเพิ่งปะทะคารมกันเรื่องภารโรง ว่าข่มขึ้นเธอหรือเปล่า อารมณ์ หึงหวงจึงเกิด และเปลี่ยนเป็นอารมณ์หื่น ผมเลื่อนมือที่กอดลงต่ำ มาบีบที่แก้มกันของเธอ เธอ ก็แอ่นสะโพกมาด้านหน้า เบียดกับไอ้หนูผม ยิ่งทำให้ผมหื่น มากขึ้นอีก ผมจูบปากเธอทันที เธอก็จูบตอบ เราแลกลิ้นกันอย่างด้วยความหื่น แพรวเองไม่ยอมแพ้ เด้งรับผมอย่างเข้าจังหวะ เพราะรู้ว่าผมชอบแบบนี้ แต่ครั้งนี้ผมหื่นมากกว่าทุกครั้ง ยังไม่ยอมถึงสวรรค์ ง่ายๆ ความเสียวในวันนี้ผมจะไม่ยอมให้มันจบง่ายๆ มันยังไม่ สะใจเลย ภาพที่ภารโรงมันนั่งคร่อมเธอผุดขึ้นมาในสมอง ยิ่ง ทำให้ผมมีอารมณ์หื่นมากขึ้นหลายเท่า ไม่น่าเชื่อว่าไอ้หนูผม มันแข็งเสียยิ่งกว่าแข็ง ไม่รู้เป็นไปได้ไง ผมกระแทกสะโพกเข้าใส่เธอทั้งแรงทั้งเร็ว มันเสียว ซ่านแบบเหลือเชื่อ ผมไม่เคยหื่นแบบนี้มาก่อนเลย ยิ่งถ้านึกถึงตอนไอ้การโรงนั่นมันทำกับเธอ ผมยิ่งหื่น มากขึ้นไปอีก นี่เป็นสิ่งที่ผมเพิ่งคุ้นพบ เพื่อความสะใจ ผมดึงตัวเองขึ้นมา นั่งยองๆครอมเธอ เหมือนไอ้ภารโรง แล้วทำท่ายงโย่ยงยงหยกเหมือนมัน อยาก จะรู้ว่าไอ้ภารโรงมันเห็นอะไร และรู้สึกยังไง พอผมทำท่านี้ อารมณ์พุ่งปรี๊ดเลย หื่นหนักกว่าเดิมอีก คราวนี้ผมแทงไอ้หนูใส่เธอไม่นับเลย เธอเองก็ดูจะสะใจที่ผม ร้อนแรงขนาดนี้ ร้องครวญครางแทบไม่เป็นภาษาคนด้วยความหื่น แพรวเองไม่ยอมแพ้ เด้งรับผมอย่างเข้าจังหวะ เพราะรู้ว่าผมชอบแบบนี้ แต่ครั้งนี้ผมหื่นมากกว่าทุกครั้ง ยังไม่ยอมถึงสวรรค์ ง่ายๆ ความเสียวในวันนี้ผมจะไม่ยอมให้มันจบง่ายๆ มันยังไม่ สะใจเลย ภาพที่ภารโรงมันนั่งคร่อมเธอผุดขึ้นมาในสมอง ยิ่ง ทำให้ผมมีอารมณ์หื่นมากขึ้นหลายเท่า ไม่น่าเชื่อว่าไอ้หนูผม มันแข็งเสียยิ่งกว่าแข็ง ไม่รู้เป็นไปได้ไง ผมกระแทกสะโพกเข้าใส่เธอทั้งแรงทั้งเร็ว มันเสียว ซ่านแบบเหลือเชื่อ ผมไม่เคยหื่นแบบนี้มาก่อนเลย ยิ่งถ้านึกถึงตอนไอ้การโรงนั่นมันทำกับเธอ ผมยิ่งหื่น มากขึ้นไปอีก นี่เป็นสิ่งที่ผมเพิ่งคุ้นพบ เพื่อความสะใจ ผมดึงตัวเองขึ้นมา นั่งยองๆครอมเธอ เหมือนไอ้ภารโรง แล้วทำท่ายงโย่ยงยงหยกเหมือนมัน อยาก จะรู้ว่าไอ้ภารโรงมันเห็นอะไร และรู้สึกยังไง พอผมทำท่านี้ อารมณ์พุ่งปรี๊ดเลย หื่นหนักกว่าเดิมอีก คราวนี้ผมแทงไอ้หนูใส่เธอไม่นับเลย เธอเองก็ดูจะสะใจที่ผม ร้อนแรงขนาดนี้ ร้องครวญครางแทบไม่เป็นภาษาคน"อู้ว... อุย... ช็ด..." คืนนั้นกว่าจะจบ สงบอารมณ์ เกือบเที่ยงคืน ผัวเมีย เกิดความสมานฉันท์ คลี่คลายความเคียดแค้น ด้วยการร่วม รักแบบสามัคคี และร้อนแรง ดีแฮะ เกิดเรื่องมหัศจรรย์ ที่ผมมีความรู้สึกแปลก และเราอารมณ์มาก แพรวก็ยังบอกว่า "สุดยอดในรอบ 10 ปี มันส์จริงๆ" และตั้งแต่นั้นมา ผมกับแพรวพบสูตรสำเร็จ ต้องพูด ต้องก่อกวนอารมณ์กันก่อน และที่ผมมักจะต่อปากต่อคำกับแพรวก็คือ ผมจะถาม ซ้ำๆซากๆว่า "รู้ตัวไหมว่า ไอ้การโรงนั้นมันเอาเข้า เข้าแค่ไหน รู้ตัว มั้ย ดีมั้ย" อะไรทำนองนั้น ใหม่ๆ แพรวจะโกรธ จะปฏิเสธ แต ผมก็พยายามยัดเยียดว่า "มันเข้าไปแล้ว เข้ามิดเลย คงมันส์สิ เลยไม่กล้าพูด แอบติดใจล่ะสิ หรือว่าของมันดีกว่าของผม" เมื่อถูกย้ำ ถูกยัดเยียดบ่อยๆ แพรวคงโมโห ฉุน เลยพูดแดกดันผม "ใช่ แพรวติดใจ และอยากเจออีก ของบอยมันเด็ก อนุบาล สู้ของมันไม่ได้" แพรวพูดจาแบบหยามหยันหมิ่นดูแคลนผม ผมโกรธที่ถูกยั่วยุ มุทะลุดัน ผมเกิดความท้ทาย มี อารมณ์ มีความรู้สึกที่อยากลบคำสบประมาท ผมจัดการกับแพรวเหมือนอยากแก้แค้นมากกว่า คล้าย กระทิงคุ ฮึดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และจากคำบอกเล่าของแพรวว่า ผมเหมือนคนเสียสติ ขณะนั้นจะพร่ำเพ้อถามว่า ไอ้ภารโรงมันอย่างนั้นอย่างนี้ และ จะพูดเรื่องความสุขที่แพรวเก็บแอบไว้ในใจกับไอ้ภารโรง และ พูดจาหยาบคาย มากมายสุดจะบรรยายได้ แต่แพรวกลับบอกว่า ถ้าผมได้พูดได้สบถเรื่องเหล่านี้ ผมจะเปลี่ยนจากแมวหงอย เป็นกระทิงดุ มีความดุดัน เมามันส์ พาลให้แพรวพบความสุดยอดแห่งความมันส ตั้งแต่นั้นมา ผมกับแพรวจะใช้เรื่องนี้ เอามาปลุกเร้า ก่อนจะมีอะไรกัน กลายเป็นสูตรสำเร็จที่เหลือเชื่อ ตอนนี้ผมกับแพรวกลับกระเตื้องในความรัก ความผูกพันถึงหวงห่วงกัน มากกว่าตอนเรารักกันใหม่ๆเสียอีก ผมเริ่มรู้ตัวว่า ผมเหมือนโรคจิต คิดแต่ความกักขพะ และมีความเคียดแค้น ชิงชัง กับหึงหวงในตัวของแพรว เพราะ ผมรักแพรว อยากครอบครองตัวแพรวและหัวใจ เป็นเจ้าของ ลิขสิทธิ์คนเดียว และผมอยากลบภาพอดีต กลัวแพรวฝังใจ มีอะไรซ่อน เร้น แอบแฝงส่วนแบ่งที่ผมต้องอยู่เต็มในนั้น ผมไม่อยากแบ่ง ที่ว่างหัวใจของแพรวไห้กับใครเลย แพรวเองก็รู้สึกดีขึ้น เมื่อค้นพบสูตรสำเร็จ ทำให้ผม มีความหึงหวง ฮึกเหิม และเปลี่ยนตัวเปลี่ยนหัวใจ จากซังกะ ตาย มาเป็นคึกคะนอง ผมบอกไม่อาย เวลาทะเลาะเรื่องนี้แล้ว มันเหมือนได้ โดีปยาชูกำลัง หรือเหมือนทานยาไวอาก้ายังไงยังงั้น และผล สะท้อนได้ดีต่อแพรวโดยตรง มันสุดยอดมาก ผมไม่รู้สึกตัวเลยจริงๆ แต่รู้ว่าผมรักและหวงแพรว ขึ้นมาอย่างจับใจ และรู้สึกแค้นไอ้ภารโรงนั่น ผมมีใจอยากจะลบปม ลบลงความสกปรก ความรู้สึก ออกไปจากตัวแพรว เหมือนผมเสียดายค่าของตัวแพรวที่ไม่น่าผมมาคิดดู ถ้าหากเกิดผมไม่น็อตหลุด คงสภาพความ กับความเหนื่อยหน่ายกับแพรว ที่เราต่างหมดความหมายต่อกัน ผูกพันกันแค่คำว่าผัวเมีย แต่การอยู่ร่วม เหมือนจำใจ ไม่หวงห่วงใย ไม่ให้เกียรติ ไม่ให้ความสำคัญแก่กัน ป่านนี้คงจะเลวร้ายมากกว่านี้ อาจถึงจุดที่ผมแอบมีเมียน้อย หรือแพรวอาจคบชู้ หรือ เราหย่าร้างกันไป เพราะอาการเบื่ออยู่ในขั้นสุดท้ายแล้ว ก่อนตายดับ เราต้องเข้าถึงแก่นแท้ของชีวิต รับรู้ถึง ด้านมืดและสว่าง อย่างกระจ่าง ในขณะที่อาจจะมีกลุ่มที่คิดดี รับรู้แต่ด้านสว่างอย่างเดียว ด้านมืดกลับกลัว อย่างไม่รู้จริง วา น่ากลัวอย่างไร เกิดเป็นคนแล้วไซร้ เราต้องไปให้ทั่ว รู้ให้ถึงทุกซอก ทุกมุมของจิตใจ...

บ่วงพันทนาการ

"ผู้จัดการจะทำบ้าอะไร ที่ทำกับฉันไปยังไม่พอใจอีกหรือ"นลินธารา พิมพ์ว่าธงชัย "ยัง!....จะเอายังไงจะมาหรือไม่มา"ธงชัยถามพร้อมกับไลน์ของสินธุคุย มาในกลุ่ม ไงวะพี่ธง....แอบดูหนังโหรือครับ เรื่องนี้เขาดูกันเป็นชาติแล้วครับ ลูกพี่55......สินธพิมพ์มาล้อเลียนเจ้านายทำให้นลินธาราทราบว่าคลิปนั้น ไม่ใช่ของตัวเอง ธงชัยทักมาอีก "ว่ายังไงเมียจำ จะให้ผัวดูคนเดียวหรืออยากให้คนงานทั้งสวนยางเห็น ด้วย"ธงชัยบีบบังคับ "อย่าทำบ้าๆนะ ตกลงๆ ฉันจะไปหาตอนดึกๆ"นลินธารารีบพิมพ์ตอบ กลับ "จะรีบไปไหน......ยังไม่สว่างเลย"ธงชัยดึงร่างเปลือยของเมียไว้ไม่ให้ลุก "ปล่อย! ฉันกลัวใครมาเห็นเข้า ผู้จัดการอยากให้ฉันเป็นผู้หญิงร่านๆ ใน สายุตาคนทั้งสวนยางหรือคะ ฉันอาย! ......ฉันไม่อยากเป็นเมียเก็บหรือเป็น นางบำเรอของผู้จัดการได้ยินไหม"นลินธาราพูดเสียงสะอื้นด้วยความอดสู่ใน โชคชะตาของตัวเอง "แต่งงานกันไหมล่ะ ......งชัยถามขึ้น ทุกสรรพสิ่งเงียบจนได้ยินเสียง เต้นของหัวใจของนลินธาราที่นอนซุกชบอยู่แนบอกของธงชัย ไม่มีเสียงตอบ รับใดๆ นอกจากหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาจากตาคู่คมของนลินธาราเท่านั้น ขึนตอนพิเศษ ปมรักบ่วงพันธนาการ ธงชัยและนลินธาราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจนพงพนาอายุได้สามขวบ ตอนนี้ พงพนาเริ่มไปโรงเรียนแล้ว แต่ก็ยังติดแม่และยังไม่ยอมแยกห้องนอนทั้งๆ ที ธงชัยพยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้ลูกแยกห้องนอนได้แล้ว "น้ำ เมื่อไหร่ลูกเราจะแยกห้องนอนได้เสียทีพี่กล่อมเจ้าพงมันจนปาก จะฉีกถึงรูหูแล้ว" ธงชัยบ่นกับเมีย "แล้วพี่จะบ่นให้ปากมันฉีกถึงรูหูทำไมคะ ก็ให้ลูกนอนด้วยไม่เห็นจะ เป็นไรเลย" นลินธาราว่าสามี "เป็นสิก็ตอนนี้เจ้าพงมันโตแล้ว แล้วมันก็รู้มากด้วยพี่กลัวว่าลูกจะตื่น มาเห็นตอนเรา........น่ะสิ" ธงชัยบอกเมีย "พูดอะไรพี่ธง ลามก" นลินธาราว่าสามี "ลามกที่ไหน พี่พูดเรื่องจริงแล้วอีกอย่างพี่อยากมีลูกอีกคนแล้ว เจ้าพง อายุสามขวบแล้วเราควรมีลูกด้วยกันอีกคนได้แล้วนะ" ธงชัยบอกนลินธารา "เอาไว้รออีกปีหนึ่งได้ไหมคะ ราราสงสารลูก ลูกยังเด็กอยู่เลยอีกอย่าง ธาราต้องทำงานด้วยยังไม่อยากมีลูกเพิ่มอีกคนตอนนี้" นลินธาราบอกกับ 管 "แต่พี่ไม่อยากรอแล้วพี่แก่แล้วนะน้ำ 32ปี แล้วพี่ก็อยากมีลูกหลายๆ คน ปีนี้เราก็ทำให้ท้องก่อนอีกตั้งเกือบปีกว่าจะคลอด ตอนนั้นเจ้าพงก็สี่ขวบ พอดี นะครับพี่อยากมีลูกอีกคน" ธงชัยพูดให้เหตุผลและอ้อนเมียด้วย พอดีกับที่ลูกชายเดินกลับเข้ามาหาพ่อแมในห้องนอนหลังจากที่กินขนมกับปู่และ ย่าจนอิ่มแล้ว "พ่อกอดแม่ทำไม ปล่อยแม่ของพงเดี๋ยวนี้นะ"พงพนาเดินเข้ามาในห้อง แล้วเข้าไปโวยวายใส่พ่อของตัวเองที่บังอาจแอบมากอดแม่ของตัวเอง "เอาแล้วไม่ล่ะไอ้ลูกคนนี้ แม่เอ็งแต่เมียข้าโว้ย จะกอดมีอะไรไหม" ธงชัยแกล้งลูกชายของตัวเอง หมั่นไส้ในความห่วงแม่ของลูกชายเสียเหลือเกิน "พอเลยพี่ธงปล่อยธารา แล้วหยุดแกล้งลูกเดี๋ยวนี้ มาหาแม่มาครับลูก เดี๋ยวแม่พาไปอาบน้ำนะครับไหนกินขนมอะไรกับคุณปู่คุณย่ามาเล่าให้แม่ฟัง หน่อยสิ" นลินธาราตุสามีและหันมาเอาใจลูกชายของตัวเอง "คุณย่าทำบัวลอยเผือกให้พงคินครับแม่ พงอิ่มมากเลย ตอนนี้เริ่มจะ ง่วงนอนแล้ว" พงพนาบอกแม่ของตัวเอง "ถ้าง่วงนอนแล้วมาถอดเสื้อผ้ามาลูกมา เดี๋ยวแม่พาหนูไปอาบน้ำก่อน แล้วเดี๋ยวกลับมาแม่เล่านิทานให้ผงฟังนะครับ" นลินธาราพูดเอาใจลูกชาย ของตัวเองหลอกล่อให้ผงพนาอาบน้ำโดยง่าย "ไม่เอาพงจะอาบกับพ่อ พงมีหนอนเหมือนพ่อเวลาอาบน้ำพงไม่อาย พ่อ แต่พงอายแม่ครับ" เด็กน้อยอธิบายให้พ่อกับแม่ฟัง "พี่รงใครบอกลูก พี่สอนลูกหรือคะ" นลินธาราถามธงชัยที่หน้าเริ่มแดง ขึ้นในใจก็คิดว่า เจ้าพงมันเล่นพ่อมันแล้ว "ก็วันก่อนน้ำทำกับข้าวอยู่ แล้วให้พี่อาบน้ำให้ลูก พี่อาบน้ำตัวยลูกเห็น ลูกก็ถาม พี่ก็ต้องอธิบายสิไม่เห็นจะเป็นไรเลย" ธงชัยแก้ตัว"แม่ครับๆ แต่หนอนพ่อตัวใหญ่ แต่ของพงตัวเล็กนิดเดียวเองครับ" พง พนายังพูดอธิบายและทำท่าประกอบ "พงพอแล้วลูกไม่ต้องพูดแล้วนะลูก ไปอาบน้ำค่ะเดี๋ยวแม่อาบให้เอง" นลินธาราดุลูกชาย "ไม่เอาจะอาบกับพ่อ พ่อบอกพงว่าพอพงโต หนอนผงก็จะใหญ่เหมือน ของพ่อเอง พอมันโต มันสามารถทำให้ผงมีน้องได้ด้วยแหละ ทำยังไงหรือ ครับพงอยากมีน้องแล้ว" พงพนายังคงพูดและถามในสิ่งที่สงสัย "พี่ธง นี่พี่สอนอะไรลูก ไม่เอาแล้วน้องพงหยุดถามแม่ แล้วไปอาบน ก่อนเดี๋ยวเถอะจะโดนจัดการทั้พ่อทั้งลูก สอนลูกดีๆทั้งนั้นพี่ธงน่ะ" นลิน ธาราดุสามีและห้ามลูกชายไม่ให้สงสัยอีก "ไปพงไปอาบน้ำ โตกว่านี้ก่อนพ่อจะบอกเองครับ ไปอาบน้ำกับพ่อไป ลูก ก่อนที่เราสองคนพ่อลูกจะลำบากมากไปกว่านี้" ธงชัยพูดบอกลูกชาย และรวบตัวลูกชายขึ้นอุ้มเดินตรงพอไปอาบน้ำ ในระหว่างที่กำลังอาบน้ำ ธงชัยก็เสี้ยมลูกเรื่องมีน้อง "พงบอกพ่อว่าอยากมีน้องหรือลูก ทำไมอยากมีน้องละ" ธงชัยถามลูก ชาย "ก็ผงอยากมีเพื่อนเล่น เพื่อนๆ ที่โรงเรียนของพงเขามีน้องกันทั้งนั้น บางคนก็มีพี่ครับพ่อ" พงพนาบอกพ่อของตัวเอง "ถ้าพงอยากมีน้องจริงๆ พ่อจะทำน้องให้ผง แต่ว่าพงต้องช่วยพ่อด้วย นะ จะได้หรือเปล่า" ธงชัยเริ่มเจ้าเล่ห์ใส่ลูกชาย "พงต้องช่วยยังไงครับ" พงพนาถามพ่อน้ำเสียงตื่นเต้น"เอาหูมา....... ธงชัยกระซิบบอกลูกชาย เมื่ออาบน้ำเสร็จรงชัยก็ห่อ ตัวลูกด้วยผ้าเช็ดตัวและยกลูกแบกขึ้นบ่าพาเดินออกมาจากห้องน้ำ "น้องพงมาค่ะทาแป้งใส่ชุดนอน คุณแม่เตรียมไว้แล้วครับ" นลินธารา บอกลูกชาย เมื่อแต่งตัวให้ลูกเสร็จนลินธาราก็เข้าไปแปรงฟันเตรียมตัวเข้า นอน "แม่นอนตรุงกลางเลยครับ พงแบ่งให้พ่อกอดแม่ด้วย" พงพนาบอกแม่ ของตัวเอง "อ้าวทำไมวันนี้ให้แม่นอนตรงกลางละครับ ปกติพงจะนอนตรงกลาง ไม่ใช่เหรอ" นลินธาราถามลูกชาย "พงจะแบ่งปันให้พ่อกอดแม่ด้วย เพราะเวลาพงมีน้องผงก็ต้องแบ่งแม่ ให้น้องกอดเหมือนกันครับ มานอนสิครับให้พ่อเกาหลังแล้วให้แม่เล่านิทาน ด้วย" เด็กชายพงพนาพูด เรียกรอยยิ้มจากคนเป็นพ่อ คิดในใจมิเสียแรงที่พ่อ สอนมาดี ธงชัยหันไปยิ้มและยักคิ้วส่งให้เมีย หลังจากฟังนิทานและให้พ่อเกาหลังให้จนหลับ ธงชัยจึงอุ้มลูกลงไป นอนเตียงเล็ก "อ้าวให้ลูกนอนเตียงเล็กหรือพี่ธง เดี๋ยวตื่นมาจะไม่อาละวาดหรือคะ" นลินธาราถามสาม "ไม่ตื่นหรอก แต่ถึงตื่นก็ไม่โวยวายหรอกพี่เคลียร์กับลูกแล้ว น้ำอย่า เสียงดัง ปิดไฟด้วยเปิดหัวเตียงดวงเดียวก็พอ" ธงชัยวางลูกลงบนเตียงเล็ก และห่มผ้าให้ลูกเสร็จก้มลงหอมขมับเด็กชน ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเสร็จก็ ลุกขึ้นไปนอนกับเมียบนเตียง"มาทำหน้าที่ได้แล้วคุณแม่ ลูกหลับแล้ว แต่ผัวนี่ตื่นมาก คืนนี้ไม่พลาด เป้าแล้วนะ" ธงชัยพูดบอกเมียของตัวเองและกอดเมียล้มลงบนเตียง "เดี๋ยวก่อนพี่ธง ราราจะบอกว่าพรุ่งนี้มีหนังสือจากทางมหาวิทยาลัยขอ พานักศึกษาเข้ามาดูงานที่สวนป้าของเราด้วยนะคะ ทางมหาวิทยาลัยเขา ขอให้พี่เป็นวิทยากรด้วย พี่อย่าลืมนะคะ" นลินธาราพูดเตือนสามี "รู้แล้ว ไม่พูดเรื่องงานแล้ว พี่จะเลิกคุมแล้วนะน้ำ น้ำเองก็ไม่ได้แอบ กินยาคุมใช่ไหม" ธงชัยพูดและถามเมียเพื่อความมั่นใจ "ไม่เคยกินยาคุมเลยค่ะตั้งแต่คลอดเจ้าพง พี่ธงก็คุมเอง ราราก็นับวัน ปลอดภัยเอาตลอด" นลินธาราบอกสามี "แต่คืนนี้ไม่ใช่วันไข่ตกนะสิ พี่ก็นับและคุมเองอยู่เลยจำได้แม่นมาก แต ไม่เป็นไรคืนนี้ทำเพื่อความบันเทิงของผัวก่อน ไว้ถึงช่วงไข่ตกจะพาเมียเข้าป่า ไปปั๊มลูกอีกคน ไม่พูดแล้วทำเลยนะ" ธงชัยพูดจบก็ประกบปากหนาลงบน ปากบางของเมีย และเริ่มบรรเลงเพลงรักขึ้นทันที "พี่ธง ทำเบาๆ อยเสียงดัง เดี๋ยวลูกตื่น ถ้าตื่นขึ้นมาตอนนี้คงมีอาการ งอแงแน่ๆ" นลินธาราพูดเตือน "ไม่ทำเสียงดังหรอกนำ แต่ถ้าเมียพูดเยอะแบบนี้ก็ไม่แน่นะ" ธงชัยพูด ทำให้นลินธาราเงียบเสียงลงและรับบทรักจากสามี เช้าของวันใหม่ น้องพงตื่นก่อนพ่อกับแม่ พอตื่นแล้วก็ลงจากเตียงเล็ก เดินกลับขึ้นไปนอนแทรกกลางระหว่างพ่อกับแม่ที่กำลังนอนหลับด้วยความ อ่อนเพลีย"น้องพงลูกนอนดีๆ แม่กำลังหลับ มาพ่อกอดลูกเองอย่ากวนแม่" ธงชัยบอกลูกชายเบาๆ ไม่อยากให้ผงพนากวนนลินธารา "แม่ไม่สบายเหรอครับ พงตื่นแล้วจะอาบน้ำไปโรงเรียนแล้วครับ" พง พนาบอกพ่อของตัวเอง "ครับ งั้นพ่อไปอาบน้ำให้ครับ" ธงชัยบอกลูกและคิดในใจว่า "เป็นอะไรวะลูกชายกู ตื่นหกโมงเช้าจะอาบน้ำไปโรงเรียนปกติต้อง ร้องไห้เสียงดังเจ็ดบ้านแปดบ้านเพราะไม่อยากไปโรงเรียนทุกวัน วันนี้เป็น อะไรถึงอยากไปโรงเรียนขึ้นมา" ธงชัยเก็บความสงสัยไว้กับตัวเองและแอบ ถามลูกชายในห้องน้ำ "วันนี้ทำไมพงถึงอยากไปโรงเรียนจังเลยลูก มีอะไรดีๆ ที่พ่อไม่รู้หรือ เปล่า" ธงชัยถามลูกชาย "พงอยากไปเล่นกับเอิงเอยแฟนของพง" พงพนาบอกพ่อ "แฟน! แก่แดดไปแล้วลูก สามขวบมีแฟนแล้ว พ่อเริ่มเวียนหัวกับพง แล้วนะลูก" ธงชัยพูดกับลูกชาย "แล้วพ่อเป็นแฟนกับแม่ตอนไหนครับ" พงพนาถามพ่อ "เป็นแฟนกันตอนแม่ท้องพงแล้ว แล้วพ่อก็โตแล้ว ส่วนผงตอนนี้ยังมี แฟนไม่ได้นะลูก ลูกเพิ่งจะสามขวบเป็นเพื่อนกันก็พอนะลูก" ธงชัยบอกลูก ชาย "ก็เอิงเอยสวย พงชอบคนสวย แล้วเป็นแฟนกันต้องทำอะไรกันบ้าง ครับ ต้องนอนกอดกันเหมือนพ่อกอดแม่เมื่อคืนหรือเปล่า พงได้ยินแม่ร้อง ด้วย......" พงพนาพูดไม่ทันจบธงชัยก็รีบเบรก"แม่ไม่ได้ร้องลูก พงหูแว่ว แล้วก็ห้ามไปพูดให้ใครฟังนะลูก จำเรื่องที่ เราคุยกันได้ไหม พ่อบอกว่าถ้าพอยากมีน้อง พงต้องฝึกนอนคนเดียวได้แล้ว เอาอย่างนี้ไหมพ่อจะทำห้องนอนสวยๆ ให้ผงเลยดีไหม" ธงชัยพูดโน้มน้าว ลูกชายสุดฤทธิ์เพราะเริ่มกลัวความรู้มาก ความอยากรู้อยากเห็นของลูกเสีย เหลือเกิน "แยกก็ได้ครับ แต่พ่อต้องให้แม่มานอนกล่อมให้พงหลับก่อน ถ้าพง ไม่ได้จับนมแม่พงนอนไม่หลับ" พงพนาบอกพ่อของตัวเอง "อะไรจะเหมือนกูเสียขนาดนี้วะลูกกู ดันมาติดนมเหมือนกันอีก" ธงชัยคิดในใจแต่ก็ยอมตอบตกลงตามใจผงพนา "ก็ได้ พ่อกับแม่จะกล่อมพงนอนจนกว่าพงจะหลับ แยกเลยนะลูกพ่อ จะให้ช่างมาทำห้องลูกเลยวันนี้ แต่มีข้อแม้อีกหน่อยนะ นอนกล่อมนี้จะ สิ้นสุดลงเมื่อผงมีน้องนะ ตกลงตามนี้นะ" ธงชัยบอกลูกชาย "ครับพ่อ แต่พงอยากได้น้องผู้หญิงด้วยผู้ชายด้วยเอาสองคนเลยนะ ครับ" พงพนาพูด "ใจเย็นลูก เอาคนหนึ่งก่อน แล้วเดี๋ยวพ่อทำเพิ่ม แต่ตอนนี้อาบน้ำเสร็จ แล้วไปแต่งตัวกัน ปลุกแม่อาบน้ำด้วย" ธงชัยบอกลูกชาย พงพนาจึงออกจาก ห้องน้ำไปปลุกแม่ "แม่ครับ ตื่นได้แล้วครับ พงจะไปโรงเรียนแล้ว" พงพนาปลุกแม่ที่ ยังคงหลับสนิทเพราะเพิ่งจะได้นอนเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาเพราะต้องรองรับ ความต้องการของสามีจนดึกดื่น พงพนาปลุกจนนลินธาราตื่น"ครับลูก แม่ตื่นแล้ว ไหนน้องพงอาบน้ำแล้วเหรอมาหอมหน่อย ให้พ่อ แต่งชุดนักเรียนให้ลูกก่อนนะ แม่ขออาบน้ำ5นาที เดี๋ยวแม่ไปส่งลูกที่ โรงเรียน" นลินธาราบอกลูก "ครับแม่" พงพนารับคำอย่างว่างยไม่ดื้อกับแม่ หลังจากอาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จสามคนพ่อ แม่ ลูกก็เดินลงมาข้างล่าง เพื่อกินมื้อเช้า ตอนนี้คุณย่าที่กำลังควบคุมคนงานที่ธงชัยหามาช่วยงานบ้าน2 คนเตรียมอาหารเช้าเสร็จแล้ว "ว่าไงเจ้าผงหลานย่า วันนี้เก่งจังไม่ร้องไห้ไม่ไปโรงเรียนแล้ว หิวแล้ว หรือยังลูก" คุณย่าประไพถามหลานชาย "หิวแล้วครับย่า น้องพงโตแล้วมีแฟนแล้วไม่ร้องไห้แล้วครับ ไป โรงเรียนจะได้มีเพื่อนเยอะแะ และได้เจอเอิงเอยแฟนพงด้วย" พงพนาพูด "ฮ่าๆ .....ายแล้วหลานฉัน ตัวแค่นี้มีแฟนแล้วเหรอลูก" คุณย่า หัวเราะและถามหลานชาย "เอิงเอยเป็นแฟนพง เพราะผงชอบที่เอิงเอยสวย แต่พ่อบอกว่ายังเด็ก เป็นแฟนไม่ได้ต้องเป็นเพื่อนกัน รอพงโตก่อนถึงจะมีแฟนได้ เหมือนพ่อกับแม่ ที่เป็นแฟนกันตอนแม่ท้องผงครับย่า" พงพนาเล่าย่า "พี่ธง พี่เล่าอะไรลูกอีก เป็นแฟนตอนท้องอะไรคะ" นลินธาราขึ้นเสียง ถามสามี "ก็เจ้าพงมันถามว่าพ่อเป็นแฟนกับแม่ตอนไหน พี่ก็บอกลูกไปตาม ความจริง เจ้าพงก็พูดหมดเลยนะ พ่อว่าลูกหยุดพูดแล้วกินข้าวเถอะลูก" ธงชัยสารภาพกับเมียและบอกให้ลูกชายกินข้าวบ้าง"สอนลูก บอกลูกแต่ละอย่างดีๆทั้นั้น ลูกกำลังจำจะพูดอะไรก็คิดบ้าง ก็ดีนะคะพี่ธง" นลินธาราว่าสามี "เอาละกินข้าวเถอะปู่หิวแล้ว วันนี้พ่อจะไปส่งหลานที่โรงเรียนเองนะ หนูธาราไปทำงานกับเจ้ารงเถอะ แล้วถ้จะเข้าสวนไปค้างที่โน่นก็ได้พ่อกับ แม่จะดูลูกให้เอง เจ้าพงก็สามขวบแล้วไม่ต้องอยู่ติดแม่มากแล้วแหละ" พอ ของธงชัยพูด "ว่าอย่างไรพง อยู่กับปู่กับย่าได้ไหมถ้าพ่อกับแม่ต้องไปทำงานสักสอง สามวัน" ธงชัยถามลูกชาย "ได้ครับแต่พ่อต้องทำน้องมาฝากพงด้วยนะ เหมือนที่พ่อสัญญา" พง พนาพูด "เอาอีกแล้ว พี่ธงสอนอะไรบอกอะไรลูกอีก" นลินธาราหันไปดธงชัย "ก็บอกว่าจะทำน้องให้ถลูกไม่ดื้อ ใช่ไหมพง ลูกไม่ดื้อกับปู้ย่แบบนี้ ให้พ่อไปทำงานรับรองเลยพ่อปั้นน้องมาเล่นกับลูกสำเร็จแน่ๆ" ธงชัยพูด อารมณ์ดี ".......ผงจะมีน้องแล้ว" พงพนาพูดน้ำเสียงดีใจตามประสาเด็ก "กินข้าวก่อนนะน้องพง คุณปู่จะได้รีบไปส่งโรงเรียน" นลินธาราบอก ลูกชาย หลังจากนั้นหน้าที่ดูแลพงพนาก็เป็นของคุณปูคุณย่าวัยเกษียณไปเสีย โดยปริยาย ธงชัยยังคงช่วยนายหัวเหมราชปลี่ยนสวนยางให้เป็นป้ายาง แต่ก็เข้า นักงานน้อยลงและหาลกน้องอีกคนมาช่วยคมงานเพิ่ม เพื่อช่วยสินธส่วนตัวเองก็ออกมาบริหารกิจการสวนป่าผสมผสานของตัวเองมากขึ้น มีการ เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าชมเพื่อศึกษาดูงาน ทั้งมาศึกษาเรื่องการเลี้ยงผึ้ง การปลูกป้า3อย่างประโยชน์4อย่างตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาล ที่9 การทำสวนป้าแบบป้ายาง ปลูกยางด้วยปลูกป้าด้วย โดยธงชัยจะแวะ เวียนมาต้อนรับคณะผู้มาดูงานและบรรยายให้ความรู้ในฐานะวิทยากรด้วย "วันนี้ทางคณะนักศึกษามหาวิทยาลัยทักษิณ ต้องขอขอบคุณนายหัว ธงชัยที่ได้เอื้อเฟื้อสถานที่และสละเวลามาให้ความรู้แก่พวกเรานะคะ" ตัวแทนนักศึกษากล่าวขอบคุณธงชัย "ด้วยความยินดีครับ คราวหน้าถ้าพวกน้องๆ มาอีกคงได้มาเห็นการ แปรรูปไม้สัก การตัดและการปลูกทดแทนนะครับ" ธงชัยพูด เมื่อส่งคณะนักศึกษาที่เข้ามาศึกษาดูงานกลับแล้วธงชัยก็ชวนเมียนอน ค้างที่บ้านพักกลางสวนสักสองสามวัน ธงชัยปรึกษานลินธาราเกี่ยวกับการ ขายผลผลิตในสวนและการหาตลาดต่างๆ "ปีนี้ผลไม้ออกเยอะ ทั้งทุเรียน มังคุด พี่กลัวว่าออกพร้อมๆ กันราคา จะไม่ดี เราจะวางแผนอย่างไรกันดี" ธงชัยถามความเห็นเมีย "ธาราว่าทุเรียนไม่นจะราคาตกมาก ราราว่าขายเหมาไปก็ได้ค่ะ ได เงินเลยไม่ต้องลำบากยุ่งยากหาแรงงานแปรรูป แต่มังคุด ลูกหยี ขนุน เรา แปรรูปเป็นผลไม้อบแห้งได้นะคะ ราราเคยอยากขอพี่ธงชื้อเครื่องอบเอามา แปรรูปสินค้าเกษตรพวกนี้ คุณแม่พี่ธงทานมีฝีมือเรื่องการแปรรูปอาหาร เรา รับแม่บ้านคนงานของพี่นั่นแหละมาช่วยกันทำเขาจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย ส่วนตลาดถ้าเราแปรรูปก็บไว้ด้นานเราไม่จำเป็นต้องรีบร้อนขาย เดียวนี้ ช่องทางการขายแบบไลน์ ขายผ่านFacebook หรือเG ขายดีมากๆ ยิ่งสวน ของเราเป็นที่รู้จักด้วยแล้ว การันตีความเป็นเกษตรอินทรีย์ด้วยขายไม่ยากหรอกค่ะ ถ้าของขายดีเราก็รับสมัครแอดมินมารับออเดอร์" นลินธาราพูด เสนอความคิดเห็น "พี่ว่าเป็นความคิดที่ดี งั้นพี่ว่าเราดำเนินการเลย พี่ยกให้น้ำจัดการเรื่อง นี้ แต่น้องจะเหนื่อยเกินไปไหม ไหนจะลูก ไหนจะผัว แล้วยังจะต้องมีเพิ่มอีก หลายคน เรื่องผัวเรื่องลูกเป็นงานหลักนะน้ำ ส่วนทำงานหาเงินเป็นอาชีพ เสริมคลายเครียดนะ" ธงชัยพูด "ค่ะ จะค่ำแล้วพี่เสร็จงานที่เตาเผาถ่านแล้วยังค่ะ ราราจะกลับบ้านไป ทำกับข้าวแล้ว เดี๋ยววันนี้ตำน้ำพริกให้กิน มีเห็ดเสม็ดของชอบพี่ด้วย" นลิน ธารารับคำเรื่องอาชีพเมียและแม่เป็นอาชีพหลักของตัวเองและพูดถามจะ กลับบ้านไปทำกับข้าวด้วย "นำรักรู้จผัวแบบนี้รักตายเลย พี่เสร็จแล้วกลับพร้อมกันเลย พี่เองก็ เหนียวตัวจะแย่แล้วอยากอาบน้ำ" ธงชัยพูดและหยอดจีบเมียเบาๆ หลังจากมื้อค่ำผ่านพ้นไปธงชัยและนลินธาราอาบน้ำเสร็จก็ขึ้นบ้านมา นอนฟังเสียงเร่ไรที่พากันร้องเสียงดังระงมเพราะเป็นช่วงของยางผลัดใบจึงมี เรไรออกมาส่งเสียงร้องยามค่ำคืนเยอะ "นอนฟังเสียงเรไรร้องก็เพลินดีนะคะพี่ธง" นลินธาราพูด "ก็เพลิน แต่พื่อยากทำอย่างอื่นที่เพลินกว่า" ธงชัยพูดจบก็ประกบปาก จูบเมียอย่างอ้อยอิ่ง นลินธาราเองก็ไม่ได้ปัดป้องขัดขืนและให้ความร่วมมือ กับสามีเป็นอย่างดี ธงชัยถอดชุดนอนให้นลินธารา ส่วนนลินธาราเองก็ถอด กางเกงเลที่ธงชัยสวมอยู่ออกให้ หลังจากนั้นธงชัยก็ลงมือรักเมียตามที่ตั้งใจไว้ ธงชัยนำพาตัวตนใหญ่โตเข้าไปในร่างกายเมีย"อุ้ย! พี่ธงเบาๆ สิ ราราเจ็บนะ" นลินธาราประท้วงเมื่อสามืออกแรง หนักไป "ครับพี่จะทำให้เบาลง แต่ว่าแน่นจัง เต็มไม้เต็มมือ คืนนี้ขอลูกอีกคน นะน้ำ" ธงชัยพูดรำพึงคล้ายเสียงละเมอและโยกตัวสลับเบาบ้างแรงบ้างตาม แรงอารมณ์ และปลดปล่อยน้ำรักเข้าไปทุกหยดหยาด หวังผลให้เมียท้องดัง ใจปรารถนา หลังจากกลับจากสวนคราวนั้นนลินธาราก็ได้ตั้งท้องและคลอดลูกชาย อีกคนให้ธงชัย ลูกชายคนนี้ธงชัยตั้งชื่อว่าพฤกษา เหล่าธรรมรักษ์ ชื่อเล่นว่า น้องพฤกษ์ พอน้องพฤกษ์อายุได้เกือบสองขวบ รงชัยก็ปั๊มลูกคนที่สามคนนี้ ได้ลูกสาวสมใจ คนนี้ธงชัยตั้งชื่อว่ามุกดา เหล่าธรรมรักษ์ ชื่อเล่นน้องมุก สาเหตุที่ตั้งชื่อนี้เพราะลูกสาวคนนี้ของเขาขาวมาก ขาวอมชมพูผิวสวย เหมือนไข่มุกได้ผิวสวยของแม่มา ต่างจากพี่ชายทั้งสองคนที่ได้สี่ผิวสีแทนของ พ่อมา ลูกชายลูกสาวทั้งสามคนโตขึ้นมาก ตอนนี้ คนโตน้องพงอายุ8ขวบ น้อง พฤกษ์ อายุ4ขวบ และน้องมุกอายุ2ขวบ นลินธาราในวัย30ปีเป็นคุณแม่ลูก สามที่ยังสวยหุ่นดีมากจนสามีอย่างธงชัยนั้นต้องแอบหึงหวงอยู่บ่อยครั้ง "น้ำ ลูกสามแล้วยังจะใส่กางเกงขาสั้นโชว์ขาอ่อนไปเดินตลาดอีกหรือ พี่ไมโอเคเลยนะ" ธงชัยพูดขึ้นหลังจากพาเมียมาแวะซื้อของที่ตลาดและแวะ ไปรับลูกที่โรงเรียน โดยวันนี้ได้ฝากน้องมุกไว้กับย่า "ก็ไม่เห็นจะเป็นไร เขาใส่กันทั่วบ้านทั่วเมือง ราราไม่ได้เขียนป้ายติดไว้ ที่หน้าอกนะคะว่าลูกสามคนแล้ว" นลินธาราพูดอย่างนึกรำคาญสามี"อยากเขียนห้อยคอปะละ ผัวหนึ่งลูกสาม เห็นไหมว่าไอ้แก่เจ้าของร้าน ทองที่เดินผ่านมาเมื่อกี้มันมองน้ำตาเป็นมั้น พี่นี่เกลียดมันแทบจะเข้าไปต่อย หน้ามัน" ธงชัยพูดอย่างนึกโมโห "เขาก็มองเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อย พี่ธงก็คิดมากไปเอง พอแล้ว ค่ะเลิกพูดเรื่องไร้สาระ ลูกสามแล้วนะคะ ไปรับสองแสบที่โรงเรียนได้แล้ว ธาราฝากน้องมุกไว้กับคุณแม่เกรงใจท่านจะได้รีบกลับบ้าน" นลินธาราพูดตัด รำคาญ ตอนนี้ชีวิตของตัวเองเวลาก็หมดไปกับการเลี้ยงลูกสามคน ช่วยงาน สามี ไม่มีเวลาได้มาคิดเรื่องบ้าบออื่นๆ เลย จนรับสองแสบกลับมาถึงบ้าน "พ่อครับสอนการบ้านพงหน่อยครับวิชาคณิตศาสตร์มันยากมากเลย ครับ" พงพนาบอกพ่อ "พ่อครับพฤกษ์ก็มีการบ้านหมือนกันสอนพฤกษ์ทำหน่อย" พฤกษา บอกพ่อ ทั้งสองคนเข้ามามะรุมมะตุ้มพ่อของตัวเอง ส่วนเมียของเขาก็เลี้ยง ลูกสาวที่อายุเพิ่งได้สองขวบ "ครับลูก พ่อสอนให้ทั้งสองคนเลย เดี๋ยวทำการบ้านเสร็จแล้วไปกิน ขนมกับคุณปูคุณย่แล้วก็ไม่ดื้อนะครับ พงต้องช่วยดูน้องด้วยนะ" ธงชัยพูด บอกลูกชายทั้งสองคน "ครับพ่อ" ทั้งสองรับคำพ่อพร้อมกัน คืนนั้นหลังจากพาลูกทั้งสามเข้านอนหมดแล้ว ธงชัยก็ชวนเมียคุยเรื่อง ลูกคนที่สี่ "น้ำ เราจะมีลูกเพิ่มอีกสักคนดีไหม" ธงชัยเปิดคำถาม"ไม่ดีค่ะ พอแล้วนะคะ แค่สามคนนี้ธาราก็เหนื่อยเวียนหัวจะแย่แล้ว" นลินธาราบอกสาม "แต่น้ำเพิ่งจะสามสิบเอง ยังสาวยังสวยมากพี่อยากมีลูกอีก" ธงชัย อ้อนและเริ่มพรหมจูบแก้ม จูบปากของเมียไปด้วย "ให้ธาราพักบ้างเถอะนะคะ มีให้แล้วสามคน ราราอยากกลับมาดูแล ตัวเองบ้าง อยากให้รูปร่างเข้าที่เข้าทาง อยากทำงานแบบเป็นผู้หญิงทำงาน ได้แต่งตัวออกไปไหนมาไหนบ้างแปดเก้าปีมานี้ธาราทุ่มเทให้ลูกทั้งสามคน และทุ่มเทเวลาให้พี่ธงทั้งหมด นะพี่ธงนะสามคนก็พอแล้วนะคะ ราราเหนื่อย แล้ว" นลินธาราพูดอ้อนขอความเห็นใจ "ก็ได้ สามคนก็สามคน แต่ว่าคืนนี้ผัวขอรักเมียหน่อยนะ" ธงชัยอ้อน อีก "อีกแล้วหรือคะ คืนนี้ไม่ด้ธารามีประจำเดือน" นลินธาราพูดปฏิเสธ "มีประจำเดือน! งั้นทำให้หน่อยพี่ไม่ได้รักน้ำมาหลายเดือนมากแล้วนะ ไม่ได้ปลดปล่อยเลย ไม่เคยนอกลู่นอกทางเลยด้วย รักเมีย รักลูกนะ นะครับ ให้รางวัลผัวหน่อย" ธงชัยยังคงอ้อน และเริ่มจูบปลุกเราอารมณ์จนนลินธารา เผลอคล้อยตามจนทำให้ความลับแตก "ไหนบอกว่ามีประจำเดือน ไม่เห็นใส่ผ้าอนามัย นี่กล้หลอกผัวแบบนี้ หรือ มานี่เลยคืนนี้โดนจัดหนักจัดเต็มแน่ๆ" ธงชัยคาดโทษ และใช้แรงดึง เสื้อผ้าออกจากตัวของเมียและถอดกางเกงของตัวเองออกด้วย"ไม่เอานะพี่ธง ราราเหนื่อย ยายมุกร้องตื่นตอนกลางคืนเพราะเป็น หวัดเพิ่งจะหาย รารานอนน้อยมาหลายคืนแล้ว ขอธาราพักบ้างนะคะ" นลิน ธาราอ้อนสามีขอความเห็นใจ เมื่อธงชัยได้ยินดังนั้นก็รู้สึกสงสารเมียจับใจ "ครับ น้ำนอนเถอะ คืนนี้ถ้าลูกร้อง เดี๋ยวพี่ดูยายมุกเอง" ธงชัยพูด เมื่อ นลินธาราได้ฟังดังนั้นจึงยกตัวขึ้นจุ๊บที่คางหนาบึกบึนของธงชัยเบาๆ เป็นการ ขอบคุณ และล้มตัวลงนอนหลับไปทันทีไม่ได้ใส่เสื้อผ้านอนเปลือยเปล่ากอด ธงชัยไว้ด้วยความรู้สึกปลอดภัยและพูดเบาๆ วา "ธาราขอบคุณนะคะ รารารักพี่ธงมากนะคะ และรักลูกมากด้วย" นลิน ธาราพูดและหลับไปทันที "พี่ก็รักน้ำ รักลูกของเรา แต่ถ้าให้พี่นอนกอดน้ำในสภาพนี้พี่ต้องขาดใจ ตายแน่ๆ ใส่เสื้อก่อนนะ" ธงชัยพูดพร้อมกับใส่ชุดนอนให้เมีย ใส่ชุดนอนให้ เสร็จก็ดึงร่างเมียเข้ามากอดอย่างแสนรัก พร้อมกับคิดตัดใจว่า "พี่มีลูกแค่3คนพอก็ได้ พี่เข้าใจว่าน้ำเหนื่อย ดีเหมือนกันลูกทั้งสามคน โตหมด พอดีเมียกลับมาเป็นสาวอีกครั้ง ทีนี้พ่อก็คงได้บันเทิงเริงใจแน่ๆ" ธงชัยคิดและหลับไปอย่างมีความสุข

คู่หวานร่านเซ็กส์

ต้องมีตัวทั่วย ผมกับอ้อยแต่งงานกันมา 12 ปี ผมอายุปัจจุบัน 36 ปี อ้อยอายุ 32 ปี แต่อ้อยมีสรีระรูปร่างหน้าตาดูอ่อนกว่า อายุจริง คือใครๆจะมองดูอ้อยอายุแค่ 23-24 ปีเท่านั้น ยิ่งเราไม่มีลูกด้วยกัน ผออ้อยแต่งตัวเป็นเด็กวัยรุ่น ก็ยิ่งมีคนทัก อ้อยยิ่งทำตัวมีจริตจก้าน คล้ายเด็กวัยรุ่นเลย ซึ่ง ผมก็ภูมิใจ ที่มีเมียคล้ยเด็กวัยรุ่น เวลาไปไหน ถ้าคนไม่รู้จัก มักจะมองผมด้วยสายตา แบบผมเป็นเฒ่าหัวงูไปเสียนี่ ยิ่งตอนอ้อยทำทีเป็นเด็กวัยรุ่น บางที่เจอเด็กสาววัย รุ่นจริงๆ เกิดเข้าใจผิดมาตีสนิทเป็นเพื่อนกันเลย เราก็ขำกัน สนุก สนานเฮฮา อ้อ ที่บ้านผมเปิดเป็นอู่ซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ อ้อยต้อง แสร้างทำเป็นน้องสาวผมเสมอ เวลาอยู่ต่อหน้าลูกค้าคนไม่รู้จักก็ดีไปอย่าง เพราะอ้อยสามารถดึงดูดลูกค้า วัยรุ่นวัยโจ๋ที่มั่วสุมเป็นแก๊งค์ ได้รถมาซ่อม มาจูนแต่งรถ จน ทำให้รายได้เราดีเหนือกว่าร้านอื่น ก็อ้อยพูดง่าย กล้าพูดกล้แสดง แรงกว่าพวกสาววัย รุ่นด้วยกัน คล้ายอายุน้อย แต่มากประสบการณ์ (ก็อายุ 32 ผม เป็นผัวเธอมา 12 ปื คิดเอาสิว่า เจอมามากขนาดไหน) จะไม่ให้กร้านแกร่งยังไง ก็ไอ้กลุ่มวัยรุ่นวัยสาวจริงๆ ดีแต่ซ่าส์ ทำกล้หาญ แท้จริงแล้วยังเจอมาน้อย เลยไม่ค่อย ถนัดที่จะคุยอย่างชำนาญเหมือนอ้อยเมียผม ครับ ผมกับอ้อย มีเซ็กส์กันบ่อย แต่มาระยะหลังที่ ผมมีอาการเหนื่อยและเพลีย เลยถดถอยไปบ้าง ไม่ขยันขี่บ่อย เหมือนเมื่อก่อน อ้อยเองก็เข้าใจ ไม่กวนผม แต่เมื่อถึงบทที่เธอทนไม่ ได้ เธอก็จะจู่โจมปลุกเร้าให้ผมขยันทำงานกับเธอ และแน่นอนกับบทบาทลีลาที่เธอปลุกเรผม เหมือน เหมือนหนังเอ็กซ์ยังไงยังงั้น โดยเฉพาะกาคพิสดารวิตถาร ผม ชอบดู ดูแล้วได้อารมณ์มากกว่าเอ็กซ์ธรรมดา ในระยะหลังหลังจากที่อ้อยได้ดูแล้วก็มีการเลียนแบบดาราบ้าง สะท้านสนั่นหวั่นไหวไปทั้งเตียง จนกระทั่งมาเจอหนังเรื่องล่าสุด เป็นเรื่องสามีจับได้ ว่าเมียแอบมีชู้ ในหนัง... สามีเอาปืนเข้าไปจ่อทั้งชู้และเมีย ที่กำลัง เปลือยร่วมรักกันอยู่ โดยทั้งคู่ตกใจ ร้องขอชีวิต ฝ่ายสามีเหมือนมีวิญญาณปีศาจและเพชฌฆาตเข้าสิง เกิดวิปริตวิตถารยังไงไม่รู้ บังคับให้เมียและชายชู้ร่วมรักกันต่อ ไป ต่อหน้าสามีอีกครั้ง แต่ทั้งคู่ปฏิเสธ ก็ถูกสามีทำร้าย ด้วยการเอาขวดตีหัว จนแตก และเอาปืนจ่อ ทั้งคู่เจอการเอาจริงๆ รู้สึกกลัว ก็จำเป็นต้องเอาชีวิต รอด ด้วยการจำยอมร่วมรักกันอีกครั้ง ตามที่สามีเธอบังคับ แต่ฝ้ายชายชู้ไม่มีอารมณ์และพลังที่จะขยับเขยื้อนขึ้น มาทำงานได้ ทั้งที่ฝ้ยหญิง (เมียเขา) ช่วยปลุกอย่างเต็มที่แล้ว ก็ตาม อยู่ๆ ฝ่ายสามีกลับมีอารมณ์ซ่านส์อย่างแสดงออก จาก ความดุดัน เหี้ยมโหด ก็ค่อยๆลดลง เมื่อตัวเองเกิดอารมณ์แทนขึ้นมาก็บังคับให้เมียตัวเองกลับมาปลุกเร้าตนเอง โดยให้ชายชู้นั่งดู ด้วยการเอาผ้ามัดมือ มัดเท้าติดกับมนั่ง ให้เป็นฝ่ายดูเขากับภรรยาร่วมกันบ้าง ออกอาการคล้ายจะเย้ยชายชู้ ให้ดู ให้รู้ว่า ข้ายังเก่ง กว่า อะไรทำนองนั้น ฝ้ายภรรยา เมื่อมองเห็นว่าอารมณ์สามีคลี่คลายแล้ว จากคิดฆ่า มาเป็นความต้องการใคร่ เธอก็ตั้งใจทำสนองตอบ เสนออารมณ์อย่างจริงจัง ก็สามีตัวเองนี่ และคิดอยากลบล้างความผิดด้วย ด้วยเหตุนี้ ลีลาอารมณ์ และลูกเล่น จึงแตกต่างเหนือ กว่าที่เคยผ่านเกมส์มันมาก่อนหน้า ภรรยาเต็มสตีมฝ่ยสามีก็เต็มสูบทั้งคู่ลุยอย่างเหมือน หนังสงครามโลก ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 มารวมกัน เรียกได้ว่า ชายชู้ที่ถูกมัดมือมัดเท้า แรกๆนั่งตัวสั่นกลัว ชีวิตตนเองต้องตายเพราะเป็นชู้กับเมี่ยเขา แต่พอได้ดูไปดูมา ความกลัวถูกความมันสบดบังเสียมิด ชายชู้ จากสั่นเป็นสู้ขึ้นมาอย่างไรไม่รู้ตัว ตัวเกร็ง หน้า นิ่ว ออกอารมณ์จนผัวเมียที่กำลังปะทะกัน ต่างหันหน้ามามอง จ้องตา ส่งภาษาใจว่าเราทำได้ฝ่ายสามีเกิดความสะใจ เหมือนอยากทรมานชู้ ฝ้าย เมียก็คลายใจ ที่ทำให้สามีไม่เหี้ยมเหมือนตอนแรก เกมส์สูงครามจบไปด้วยคราบของเหลวที่เปื้อนเปรอะ เลอะเทอะของทั้งคู่ หลังผ่านสงครามกับไปแล้ว ฝ่ายสามีไม่ให้ภรรยาล้าง แต่กลับบังคับให้ชายชู้ทำความสะอาดให้ด้วยปาก โดยให้ฝ้าย ภรรยายืนคร่อมบนมนั่งนั่น แล้วให้ชายชู้ทำความสะอาด บังคับ ให้กลืนกินด้วยอีกต่างหาก ดูเป็นความสะใจ คล้ายแก้แค้นมากกว่า แต่พอสามีได้เห็นภาพการทำความสะอาดท่านั้นก็กลับ ทำให้มีอารมณ์ขึ้นมาอีก กระชากฉุดเอาเมียตนเองลงมาแล้ว ร่วมรักอีกครั้งจนได้ มันเกิดอารมณ์หึงหวงอย่างประหลาด แล้วก็บังคับเช่นเดิมอีกครั้ง ให้ชายชู้ทำความสะอาด จากนั้นก็ปล่อยตัวไป หลังจากนั้น ฝ่ายสามีก็คุมตัวภรรยาแจ ไม่ยอมให้ห่าง คลาดสายตา แต่พอจะร่วมรักกันแบบ 2 คนปกติ ฝ่ายสามีกลับ ไม่มีอารมณ์กระโจนเหมือนอย่างวันนั้นภรรยาก็ดูหงอยๆ ไม่ระริกระรี้ ไม่ตื่นตัวเร้าใจมากเท่า วันนั้น ที่สุดฝายสามีก็ให้ภรรยาไปตามชายชู้มา แต่ไม่สำเร็จ ชายชู้กลัวเจอซ้อนแผน ฝ้ายสามีต้องไปอ้อนวอน เชื้อเชิญให้ มานั่นเอง ชายชู้คนนั้นจึงยอมมา และคราวนี้ชายชู้ไม่ได้ถูกมัดจี้ด้วยปืน แต่ให้เปิดฉาก ก่อนเสียด้วยซ้ำ ด้วยการปลุกเร้า ขยำปล้ำ ได้ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ห้ามล่วงล้ำอธิปไตย จนสามีทนไม่ไหว มาร่วมวงร่วมขยำยำเมียตนเองด้วย แล้วจึงจัดการเมียก่อนอย่างสะใจ เมื่อเสร็จสมอารมณ์หมาย ก็อนุญาตให้อดีตชายชู้ ตอ ท้ายจากตน ท่ามกลางเสียงครางของเมียตัวเอง และภาพแห่งความตื่นเต้นเร้าใจของฝ่ายเมียที่แสดง ออกกับชายชู้ ที่ดูจะมีสมรรถภาพสูง ดูๆไปเหมือนจะเหนือกว่า บทบาทลีลาของฝ่ายสามีซะด้วย นี่เอง... มีหรือเจ้าของตัวจริง เจ้าของลิขสิทธิ์ จะยอม พ่ายแพ้ สามีต้องแก้ตัวแก้ลำ แสดงศักยกาพเพื่อลบล้าง สองชายต่างประกวดประชันอย่างสุดฤทธิ์สุดเดชแต่ผู้ที่รับไปเต็มๆ ก็คือฝ้ายหญิงนั่นเอง เธอรู้สึกสะใจ อย่างสุดๆ นี่คือจุดเริ่มตันของผมที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ก่อนอ้อยทำให้ ผมมีอารมณ์ มีความคิดฟุ้งซ่านอย่างรุนแรง ผมได้เรียกอ้อยมาดูบ้าง เพื่อหยั่งรู้อารมณ์และความ รู้สึกในเรื่องนี้ ปรากฏว่า เมื่ออ้อยดูจบ ยังไม่ทันจะสบตา อ้อยก็ถลา เข้าคลุกผมและเรต่างเกิดอารมณ์ที่จะฟาดฟันกันอย่างฉับพลัน ปัจจุบันทันด่วน ถอดเสื้อผ้ากันแทบไม่ทัน ครั้นสงครามจบลง เราคงกอดก่ายทับกันบนร่างเปลือย ด้วยกัน ผมลองถามอ้อยว่า "ถ้เราจะทำแบบในหนังที่ดูบ้าง อ้อยจะว่าไง" อ้อยถึงกับตาขวาง "พ่อเป็นพวกโรคจิตวิตถารเหรอ หนังก็คือหนัง ไม่ใช่ เรื่องจริง เขาสร้างไว้หลอกคนดู" ผมก็บอกว่า... "แล้วถ้าเราจะลองดูมั่งล่ะ น่าสนุกนะ"อ้อยถึงกับมีสีหนโกรธ ก่อนจะเอ่ยเสียงเข้ม "แล้วพ่อกล้ที่จะให้อ้อยทำอย่างนั้นหรือ" ผมก็ใจสั่นเต้นตูๆ คิดหนัก จริงดั่งเธอว่า "ถ้ได้ทำจริง ผมจะกล้ และจะทุนได้หรือ" นี่คือโจทย์ที่ผมต้องการคำตอบ "ไม่รู้สิ พ่อคิดว่าน่าจะทำได้" พอผมพูดแค่นั้น อ้อยดูจะโกรธมาก ลุกขึ้นเข้าห้องน้ำ เสร็จก็เข้าครัวเลย จนเราออกมานั่งโต๊ะอาหารกัน อ้อยไม่พูด ไม่มองหน้า ผมเลย ตอนนั้นผมสันสบจริงๆ คิดดู...ไอ้หนังเรื่องนั้น มันมีอำนาจและอิทธิผลเปลี่ยน แปลงความคิดผมได้ถึงขนาดนี้ ในที่สุดเรื่องนี้ก็เป็นอันยุติ ผมไม่เอ่ย อ้อยก็ดูค่อย คลายใจลงบ้าง แต่ผมยังฝังติดอยู่ในใจเหมือนเดิม เวลาร่วมรักครั้งไร ผมจะจินตนาการ จำลองเหตุการณ์ ว่ามีบุคคลที่สามเข้ามาอยู่ร่วมด้วยทุกครั้งไป ผมเผลอบ่อยๆ ที่จินตนาการนอกลู่นอกทาง จนอ้อย สงสัย ที่ผมจะมีท่าทางและอาการแปลกๆเช่น ผมจะเผื่อที่ว่าง คล้ยจะมีอีกคนอยู่ด้วย หรือมอง ไปที่ม้านั่ง คล้ายมีคนนั่งอยู่ จนอ้อยอดถามไม่ได้ "พ่อมองอะไร อ้อยเห็นพ่อมองไปที่นั่นที่นี่อยู่เรื่อย" ผมก็ต้องรีบตอบ "ไม่มีอะไรหรอกน่า อย่าคิดมาก" แล้ววันหนึ่งฝันที่เป็นจริงก็ได้เกิดขึ้นอย่างเหลือเชื่อ เมื่ออ้อยบอกกับผมว่ามีเพื่อนสมัยเรียนหนังสือมัธยมมาด้วยกัน ได้โทรมาปรึกษา "คือสามีเธอไปทำงานต่างประเทศ กำหนด 2 ปีกลับ นี่ไปได้ 7 เดือนแล้ว แรกๆก็พออยู่ได้ แต่ตอนนี้เธอมีอาการเหงา อยากจะชวนอ้อยไปเป็นเพื่อน..." อ้อยพูดจริงจัง มองหน้าผม แล้วพูดต่อ "เมื่อเธอลงมาที่กรุงเทพฯ จะให้อ้อยติดต่อเพื่อนชาย ที่ไว้วางใจได้ให้หน่อย เธอจะจ้างเขาช่วยระบายมันออกที เพราะ อดมานาน" ที่อ้อยมาพูดคุยกับผม เพราะเธออุตริ คิดจะให้ผมไป เป็นไอ้ตัว ได้ค่าจ้างด้วยเผอิญว่าเพื่อนคนนี้ของอ้อย เราไม่เคยเจอกัน อ้อย มีแต่โทรคุยกันในระยะหลังเท่านั้น เธอรู้เบอร์มาจากเพื่อนอีกคน ผมมองหน้าอ้อย คล้ายจะถามว่า เธอจะกล้าเสียสละ ให้ผมไปทำเช่นนั้นหรือ อ้อยมองตาผมรู้ว่าผมคิดยังไง "อ้อยอยากให้พ่อได้ตื่นเต้น เปลี่ยนรสชาติบ้าง เพราะ ตลอดเวลา พ่อไม่เที่ยว ไม่เคยนอกใจอ้อยเลย" อ้อยพูดเช่นนี้จริงๆ ผมเลยได้ความคิด ต่อรองกับอ้อย "ถ้าอ้อยเห็นดี พ่อก็กล้ แต่อ้อยต้องอยู่ด้วยนะ พอ ถึงจะตกลง" อ้อยรีบบอกเลย "แน่นอน ก็เพราะเพื่อนที่ว่านี่ เธอขอร้องให้อ้อยอยู่ เป็นเพื่อนเธอด้วยน่ะสิ อ้อยถึงเลือกพ่อไง แต่ถ้าพ่อไม่เอา อ้อย ก็ต้องปฏิเสธ จะบ้หรือ จะให้อ้อยไปอยู่ในห้องกับผู้ชายที่เป็น ใครไม่รู้ แม้จะมีเพื่อนอยู่ก็ตาม อ้อยไม่กล้หรอก" เป็นอันตกลงกัน โดยแสร้งทำที่เป็นว่าผมเป็นเพื่อน ชายของอ้อย ไม่ให้เพื่อนอ้อยรู้ว่าเป็นผมสามีอ้อย พอถึงวันนัด ผมสุดตื่นเต้นจนอ้อยต้องกระตุกแชนเสื้อเมื่อพาผมมาหาเพื่อนสาวเธอคนที่ว่า เธอมาจากพิษณุโลก มาพักอยู่ที่โรงแรมแถวสะพาน ควาย ประเภทโรงแรม 3 ดาว ถือว่าไม่แพงนัก และใช้ได้ที่เดียว เสียแต่ว่ามีพวกแขกขาวต่างชาติพักแทบทั้งนั้น ผมกับอ้อยพยายามทำให้สมจริงสมจังเพื่อไม่ให้เพื่อน อ้อยรู้ว่าเราเป็นอะไรกัน ก็ลำบากน่าดู กลัวไม่แนบเนียน โอ้โฮ้แฮะ เพื่อนอ้อยสวยหุ่นดีเกินกว่าคิดเอาไว้ ตอน แรกผมวาดภาพ ว่าคงจะอ้วนตุ๊ตีะ อย่างแม่บ้าน ต.จ.ว. ทั่วๆไป แต่พอได้เห็นชัด และแนะนำตัว จึงรู้ว่าเธอเป็นถึงอดีตนางนพ มาศทีเดียว อ้อยพยายามเดินเกมส์ สร้างความคุ้นเคยต่อกัน แต ดูเพื่อนอ้อย ชื่อแตง จะส่อแสดงอาการในการพูดคุย และเหมือน มีความต้องการอย่างไม่รั้งรอ แตงดึงอ้อยไปแอบพูดคุย ซุบซิบเสร็จ อ้อยแอบส่ง สายตาเป็นซิกว่า "ทุกอย่างตามที่คุยกันไว้" อ้อยพูดกับแตงเรื่องอะไรไม่รู้จู่ๆเมื่ออ้อยมาถึงที่ผมนั่ง อ้อยสั่งผมให้ไปอาบน้ำเลยอ้อ ลืมบอกไป วันนี้ผมเหล้าเบียร์ไม่ดื่ม ก็แตงเขาต้อง การจุดนี้ด้วย เลยโชคดีที่ผมไม่สูบไม่ดื่มก็ได้ กุศลผลบุญทันตา เห็นก็คราวนี้ ผมรีบอาบน้ำออกมา โอ๊ะๆ แสงสีในห้องถูกปรับแต่ง จนสลัว ส่อแสดงถึงความมีอารมณ์สุนทรีย์ ผมเห็นแตงอยู่ในชุดผ้ขนหนูผืนเดียว กระโจมอก ผ้าผูกผมกันเปียก เดินเลี่ยงเข้าห้องน้ำไป ผมก็อยู่ในชุดผ้าขนหนูผืนเดียว เปลือยอก อ้อยนั่ง อยู่ขอบเตียง พอเสียงประตูห้องน้ำปิด อ้อยดึงผมเข้ทา คล้ายจะ หึงหวงและเสียดาย อะไรประมาณนั้น อ้อยเอามือมาล้วงดึงไอไบ้ที่คุ้นเคย เหมือนจะสั่งลาว่า มันจะหลงทางไปชั่ขณะ อ้อยถึงกับก้มหน้าซุกไซ้ เล่นเอาผม เกือบทนไม่ไหว พอดีเสียงประตูห้องน้ำดังปิด ดีที่เรายังไม่เตลิด รีบ ผละทำตัวปกติ ถึงคิวอ้อยผลัดผ้ไปอาบน้ำบ้าง ผมงง อ้ว ไหนตกลง กันว่า ให้ผมเล่นกับแตง แล้วอ้อยจะนั่งดูเป็นเพื่อน ไหงต้องอาบน้ำด้วยล่ะ ชักพิกลแล้ว แตงเดินมาหาผม จังหวะที่อ้อยปิดประตูห้องน้ำ แตง ก็นั่งคร่อมบนตักผม อะไรที่อยู่หน้าขาของเธอ ก็แผลมรำไรๆ อกอวบอั๋นเต่งไปทั้ง 2 เต้า แตงโอบรอบคอผม แล้วจู่โจมผมเลย กอดแล้วจูบ ดูดปากผมอย่างรุนแรง สมแล้วที่อดอยากปากแท้งตามที่ว่า 7. 8 เดือนจริงๆ ผมตอบโต้เกือบไม่ทัน ก็เอาลิ้นเข้ามาคว้านในปากผม โชคดีลิ้นไก่อยู่ลึก ไม่งั้นคงถูกกระชากหลุดออกมาแน่ ไม่เพียงแค่นั้น กันที่นั่งทับก็ดูจะแกล้งส่ยขย่มคุนดัน แกล้งไอไบ้ผมที่มันยังชันแข็งตั้งแต่ก่อนหน้ถูกอ้อยแกลังมา ก่อนแล้ว ผมลุกขึ้นลูกผู้ชายฆ่ได้หยามไม่ได้ผมอุ้มแตงขึ้นเตียง เถียงกันไม่เลิกเลย ทีนี้มันส์สุดๆ ดึงผ้าเช็ดตัวออกได้ ผมก็บรรเลงให้เธออย่างเต็มที่ ปลายลิ้นผมทำหน้าที่อย่างเชี่ยวชาญ ตวัดไล้ไปจนทั่ว นาผืนน้อยนั้น แตงถึงกับดิ้นเร่าๆ เหมือนใจจะขาด "อย... ซื้ด...."เสียงครางดังพอสมควร ผมจู่โจมเธอต่อด้วยการไช ลิ้นเข้าไปในซอกหลืบ ยิ่งทำให้เธอดิ้นพล่านขึ้นอีก "โอ๊ย... พอแล้ว... อาาาาา..." เสียงกระเล่าแบบนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอเสียวซ่าน มากขนาดไหน ไอ้ใบ้ของผมตอนนี้มันแทบจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ แล้ว ผมเลื่อนตัวขึ้นมาดูดที่เต้าอวบของเธอต่อ มือก็จับไอ้ใบ้ ถูไถที่ปากถ้ำของเธอไปด้วย เธอสนุก ผมสนาน อาการเหมือนรถไฟชนกันมากว่า เครื่องบินชนกัน เพราะขบวนมันยาวกว่ากัน ตอนนั้นจวนจะ เห็นพระอินทร์เหาะมาเขียวๆอยู่แล้ว อ้อยออกมาจากห้องน้ำเมื่อไหร่ไม่รู้ ดึงผมมาติดตัว นัวเนีย คล้ายขอส่วนแบ่ง หรือแกล้งอย่างหึงหวงไม่รู้ พระอินทร์ เลยวูบหาย ผมต้องเริ่มต้นใหม่ ก็ดีเหมือนกัน แต่คุณเอ๋ย มันหนักกว่าเก่าเข้าไปอีก เมื่อทั้งสองกลับ ร่วมมือร่วมใจกัน รุมโทรมผมคนเดียวนี่น่ะซึ โจมตีผมด้านล่าง ด้วยแตง ด้านบนก็แม่ยอดขมองอิ่มของผม แตงจับไอ้ไบ้ผมเข้าไปในปาก เธอชิมรสชาติอย่างเอร็ดอร่อย เทคนิคลี่ลาเธอไม่เลวเลย ใช้ลิ้นได้เก่งไม่แพ้อ้อยเมียผม แต่อรรถรสแตกต่างกันพอสมควร ส่วนอ้อยก็ไม่ยอมน้อยหน้ ไซ้ที่ซอกคอผม แล้ว เลื่อนมาดูดปากกับผมอย่างเมามันส์ ผมโดนดูดทั้งบนทั้งล่าง แบบนี้ สวรรค์ชั้น 7 ยังเรียกพี่เลย แล้วผมก็มาถึงจุดที่ทนไม่ไหว ลุกขึ้นจับอ้อยเมียผม ทำท่าโก้งโค้ง แล้วผมใส่เธอไม่ยั้งจากด้านหลัง จนเธอถึงกับทำ หน้าบิดเบี้ยว แตงซึ่งนั่งมองอยู่ใกล้ๆ คงไม่อยากอยู่เฉยๆ เอาเต้า อวบมาถูไถที่บริเวณใบหน้าผม บอกตามตรง ความสุขแบบนี้ผมไม่เคยเจอมาก่อน มัน เร้าใจจนบอกเป็นคำพูดไม่ได้ ไอไบ้ผมมันปังอย่างที่ไม่เคยเป็น มาก่อน อ้อยเห็นแตง ก็เข้าใจว่าเธอคงอยากเหมือนกัน "มาแตง... เรามาเปลี่ยนกันบ้าง" นั่นแหละ ผมจึงได้ทำกับแตง ผมจับแตงโก้งโค้งท่า เดียวกับเมียผม แล้วผมก็ใส่เกียร์ 3 ทันที "อูยยยย..."เสียงแตงบ่งบอกถึงความสุขที่ได้รับ ผมก็สนุกจนลืมตัว มือบีบขยำสะโพกใหญ่ของเธออย่างมันส์มือ อ้อยเข้ามาประกบด้านหลังผม แล้วเอาเต้าสวยเบียด หลัง ถูไถไปมา สะโพกผมยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างชำชอง ผมกระ แหกจนแตงร้องไม่เป็นเป็นภาษามนุษย์ แล้วเธอก็ถึงสวรรค์ชั้น ที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่ผมยัง... ผมต้องรอให้อ้อยเมียสุดที่รักของผมเสร็จ ด้วย ผมผละจากแตง มาจับอ้อยนอนหงาย แล้วกระแทกอย่าง ไม่ยั้ง วัวเคยขาม้าเคยขี่ รู้ใจกันทุกอย่าง เพียงไม่นานเราทั้ง คู่ก็ไปถึงสวรรค์พร้อมๆกัน ตกลงคืนนั้น เราคงอยู่ด้วยกัน โชคดีตอนนั้นยังหัวค่ำ อยู่ ก็ได้หลับกันอย่างเต็มอิ่ม แต่คุณเอ๋ย ตอนตี 4 ได้ ถ้จำไม่ผิด สองสาวมหากาฬ ก็ก่ออิทธิฤทธิ์สร้งอภินิหารปรากฏการณ์ขึ้นมา สองสาวพร้อมใจกันจู่โจมผมอีกรอบ ทำให้ผมคิดถึง ก่อนที่ผมจะมาอยู่ กทม. ผมเคยเป็นกรรมกรรับจ้างขุดดิน ทำทำนบดิน ขุดเหวี่ยงดินทั้งวัน เหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่ยัง ไม่สาหัสเท่าครั้งนี้เลย ผมลืมญาติลืมพี่ลืมน้องไปหลายวัน ได้ประสบการณ์ มา กลับกรุ่นกระตุ้นจิตใจให้ห้าวหาญมากกว่าเดิม ถึงกับกล้าที่ จะเอ่ยปากกับอ้อยว่า "พ่ออยากให้อ้อยได้พบความตื่นเต้นบ้าง อย่างที่อ้อย ได้ให้ผม" อ้อยไม่ปฏิเสธแฮะ แต่ย้อนถามว่า "แล้วพ่อไม่หวงอ้อยเหรอ" ผมสั่นหน ในเมื่ออ้อยกล้าให้ผมได้ ผมต้องกล้าให้ อ้อยได้เหมือนกัน อ้อยดูตื่นเต้น แต่ยังแบ่งรับแบ่งสู้ ผมรู้ว่าอ้อยลังเลใจ ในเรื่องผู้ช่วยบุคคลที่ 3 มากกว่า เมื่ออ้อยกล้ให้ผมได้ ก็หมายถึงจิตใจอ้อยได้เลื่อนขั้น ของความเข้าใจในเรื่องธรรมชาติของเซ็กส์ ว่าไม่จำเป็นต้องยึด ติดกับเรื่องนี้ว่าต้องเป็นผัวเมียกันเท่านั้นถึงจะร่วมรักกันได้ ตาม ขนมธรรมเนียม เราแยกแยะเรื่องความรับผิดชอบของการครองคู่กันแยกเรื่องเซ็กส์ที่ธรรมชาติของร่างกายต้องการออก จากกันได้ ทุกสิ่งอย่างก็ลื่นไหลไปกับความสุข ผสมผสานกับ ลมหายใจ แล้วความฝันเริ่มก่อเป็นรูปเป็นร่างในวันหนึ่ง ที่เผอิญ มีดาราระดับพระรอง เอาช็อปเปอร์มาจูนเครื่องใหม่ เขาเห็นอ้อยเข้าก็คงคิดเดาผิดเช่นคนอื่นๆ เห็นว่าอ้อย หน้าตาน่ารัก จึงชมว่านจะไปเป็นดารานะ และที่สำคัญ เขาแอบถามผมว่า "อ้อยเค้าเป็นอะไรกับพี่ครับ" ผมก็เลยจำต้องโกหก "อ้อ อ้อยเหรอ เป็นน้องเมียผมเอง ผมก็แอบหมาย ปองอยู่ แต่เธอบ้าดารานะ เอาไว้ผมจะแนะนำให้" เท่านั้นเอง พล ดาราพระรองคนนี้ ก็มาเป็นแขกประจำ เขามักจะแกล้งเอารถมาให้ตรวจเปลี่ยนนั่นทำนี่ ผมก็เปิดโอกาส ให้พลและอ้อยได้พูดคุยกัน มันสร้างความตื่นเต้น ระทึกขวัญตลอดเวลาที่พลกับ อ้อยได้พูดคุยกัน ตรงโต๊ะบัญชี พลทำที่รอรถซ่อมไปในตัว อ้อยเองก็สะท้านทรวงอยู่ไม่น้อย แต่คอยจะเหลือบตาแลผม ว่าจะมีอาการอย่างไร ผมเองก็ใช่ว่าจะปกติสุข ผุดลุกผุดนั่งใจเต้นสั่น เหงื่อ แตกพลั่กๆ อดเสียว หวงหึงอยู่ในอารมณ์ แต่แสดงออกไม่ได้ เลือกทะลึ่งสร้งเรื่องเองทำไม โทษใครไม่ได้ เหตุการณ์ต่อเนื่อง อ้อยมากระซิบผม "พลเค้าชวนอ้อยไปเที่ยว พ่อว่าไง" ผมอนุญาตให้พลพาอ้อยซ้อนท้าย ไปเที่ยวผับได้ แต ต้องไม่มีอะไรกัน ซึ่งก็เป็นไปตามที่กำหนด แต่ผมอดหวั่นไหวกับเหตุการณ์ที่จะต้องเกิดขึ้นไม่ได้ มันน่าจบลงตรงนั้น ตอนนี้ผมทำใจลำบากมาก คิดอยากจะเลิก ล้มเสียแล้ว แต่อ้อยกลับดูสดใส และมีอารมณ์จู่โจมผม ทุกครั้ง ที่อ้อยกลับจากเที่ยวผับ จะบอกเล่าความเป็นสุภาพบุรุษของพล เธอบอกว่าล้ำลึกสุดก็คือแค่กอดจูบกันเท่านั้น ตอน เพลงช้ๆ จังหวะสโลว์ซบ แค่นี้ผมก็หึง ฮึดฮัด กระหน่ำอ้อยอย่างรุนแรง แล้ว อ้อยเองก็คงเจอจุดอ่อนของผม เวลาผมหึงผมจะดึกมาก อ้อยรู้ใจ โยนความสุขความเพิ่มพลังให้กับผม มันก็สะท้อนถึงตัวอ้อยด้วย ก็เป็นผลดีต่อกัน คิดๆแล้วได้มากกว่าเสีย... แล้วถ้ากล้กว่านี้ล่ะ นี่เองที่ทำให้ผมตัดสินที่จะเดินหน้าต่อไป อย่างกล้าๆ กลัวๆ และเมื่อเวลามาถึงจนได้ พลได้มาพูดกับผมว่า "อ้อยเค้าชวนเราไปเที่ยวน้ำตกกันครับ เค้าอยากไป พักผ่อน แต่ต้องมีพี่ไปด้วย" อ้อ ลืมบอกไป ที่ผมบอกว่าอ้อยเป็นน้องเมียนั้น ผม บอกผลว่า พี่สาวอ้อย เมียผม ได้ตายไปได้ 2 อ้อยจึงมาอยู่ แทน ทำงานบ้านแทนพี่สาวเธอ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องสมมุติ ทั้งสิ้น เพื่อการเล่นละครให้สมจริง ตกลงเราไปกัน ผมมีรถปิคอัพ จึงไปกันได้ 3 คน ผมแอบกระซิบกับผล ตอนรถไปจอดปั๊ม ตอนนั้นอ้อย ไปเข้าไปในห้องน้ำ "คืนนี้เราหาทางฟันอ้อยกัน" ผมเอ่ยขึ้นก่อนพลดูมีความตั้งใจแบบนั้นอยู่เหมือนกัน ผมอ้างว่าต่ออีกว่า "ผมดูๆแล้ว อ้อยเค้าเป็นคนมีอารมณ์ร้อนแรง แต่ชอบคนหล่อ ผมเคยคิดจะล่ออยู่ตั้งหลายครั้ง แต่ไม่ประสบโอกาส ซักที่ คราวนี้มีคนหล่อมาล่อ ถ้าอารมณ์เธอลื่นใหล ผมอาจจะ มีโอกาสต่อได้" ดูผลไม่เข้าใจ และมั่นใจในคำพี่ผมพูดมา แต่ก็ต้อง เสี่ยงลองดู เมื่อรู้ว่าผมต้องการเล่นด้วย (หมายถึงรู้เห็นเป็นใจ ในฐานะพี่เขย) เมื่อรู้เห็นเป็นใจกันแล้ว พอรถถึงรีสอร์ท เราได้เช่าบ้าน พัก 1 หลัง มี 1 ห้องนอน แรกๆอ้อยทำที่ท่าว่าจะไม่เอา แต่ผมอ้างว่า "เราอยู่กัน 3 คนจะกลัวอะไร ดีเสียอีก ที่ได้อยู่กัน พร้อมหน้า" อ้อยก็ทำท่าทีเห็นดีด้วย เสียงอ่อยๆ และคืนนั้นหลังอาหารค่ำ ผมดื่มเบียร์กันนิดหน่อย ปล่อยให้อ้อยกับพลอยู่ด้วยกันก่อน เพื่อจะได้สร้งบรรยากาศ และสร้างอารมณ์ ก็รู้กันระหว่างผมกับผล และผมกับอ้อย แต่อ้อยกับ พลนั้น อ้อยรู้ แต่พลไม่รู้ นี่เองที่พลจึงต้องใช้ศิลปะและอารมณ์กับเทคนิค ลีลาลูกเล่น หว่านล้อมอ้อยให้ยอม ที่จะได้สุขสมต่อกัน ซึ่งอ้อยก็ เล่นได้สมบทบาท ที่ว่าเจอหนุ่มหล่อ ตัวงอเหมือนกุ้ง 4 ทุ่มเศษ ผมทำที่อยู่นอกชาน นั่งฟังเสียงน้ำตก กับ จิบเบียร์ ปล่อยให้อ้อยกับพลเข้าไปคุยกันภายในห้องนอน ผมอยู่ด้านนอก ก็แอบดู เพราะได้หารไว้ก่อนตั้งแต่ บ่ายๆ ผมมองเห็นภายในห้อง ตั้งแต่ทั้งสองนั่งคุยกันบนเตียง จากนั้นพลค่อยๆเอื้อมมือกอดกระซิบ และประกบหน้า จูบกันเลย แรกๆอ้อยทำอาย แต่ก็ทนฝืนไม่ไหว ก็ต้องหันหน้าสู้ จูบกันดูดดื่ม ภายใต้ผ้าห่ม ผมเห็นมือไม้อ้อยปัดป้อง แต่พลเอาแต่จะล้วงจก เหมือนหนวดปลาหมึก ผมแอบดู กลับคึก ไม่หึงหวง แต่อยากร่วมด้วย แต ผมต้องอดใจรอ ตามนัด ดูได้พักเดียว ผมหันมารินเบียร์ แล้วเดินกลับไปดูต่อ อะไรกันวะ ผมเห็นทั้งคู่กอดก่ายกัน ปลือยกายกัน แล้ว ช่างรวดเร็วอะไรปานนั้น ผมเจอภาพพลกำลังแลบลิ้นชิมของคาว อ้อยถึงผวาใบหนของพลซุกอยู่ตรงหว่างขาอ้อย มือไม้ก็บีบไป ตามร่างกายของเธอ โอ๊ย.. ไม่น่าเชื่อ ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก อ้อยท่าทางจะมีความสุขสุดๆ เธอแหงนหน้า หลับตา พริ้ม มือจิกผ้าปูที่นอนแน่น สงสัยพลคงจะชำนาญเรื่องการใช้ ลิ้นมาก เพราะตอนผมทำ อ้อยไม่เคยเป็นอย่างนี้เลย ผลใช้เวลาซุกหน้าอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานพอสมควร ผมเห็นไอไบ้ของพลแล้ว ก็ไม่เท่าไหร่ พอๆกับของผม รู้สึกโล่ง ใจเหมือนกัน เมียผมจะได้ไม่เยินมาก แล้วผมก็ทนไม่ไหว รีบอย่างสุดไว ก็นัดกันไว้ จะช่วย กันรุมไง นี่เล่นเอาคนเดียว ผมผลักประตูเข้าไป ก็รู้กันว่าต้องไม่ปิด อ้อยทำสะดุ้ง ตกใจ "ว้าย พี่พล เข้ามาได้ยังไง" "อยู่เฉยๆ ไม่เป็นไรหรอก ไหนๆก็รู้กันแล้ว" ผมไม่ฟังเสียง เข้าประกบปากจูบกับอ้อย ในขณะพล อยู่ด้านล่าง อ้อยยอมโดยดี เพราะกำลังมีอารมณ์พล่านอย่าง กระหาย

พ่อหม้ายวัยหื่น

คุณจักร... หนุ่มใหญ่วัย 46 ปี แม้วัยจะล่วงเลย มาขนาดนี้ แต่รูปร่างหน้าตายังดูดี ดูอ่อนเยาว์กว่าวัยที่แท้จริง มาก บางคนว่าหล่อกว่าคนหนุ่มเสียอีก ผิวขาวอมชมพู เรือน ร่างสูงสง่า อย่าว่าคนผู้หญิงวัยเดียวกันจะมองจนเหลียวหลังเลย สาวรุ่นๆยังอดหวั่นไหวในความหล่อของเขาไม่ได้ คุณจักรเป็นพ่อม่ายลูกติด ภรรยาเสียชีวิตตั้งแต่ลูก สาวอายุได้ 10 ขวบ จนบัดนี้ลูกสาวชื่อจอมจุรีผู้เป็นเลือดเนื้อ เชื้อไขคนเดียวของเขาอายุได้ 20 ปีแล้ว เป็นสาวสวย ถอด แบบความงามมาจากมารดา และได้ผิวสวยจากบิดา สองพ่อลูกมีความรักและห่วงใยกันมาก เฉพาะอย่าง ยิ่ง ถ้าคุณจักรไปติดต่องานที่ต่างประเทศ จอมจุรีจะห่วงบิดาจน แทบไม่อยากไปไหน คอยเฝ้าแต่โทรศัพท์เพียงอย่างเดียว "ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะลูก" คุณจักรทักลูกสาว ซึ่งนั่งหน้ามุ่ยที่โต๊ะอาหาร "จอมคิดถึงคุณพ่อสิคะคว่าคุณพ่อจะกลับก็เกือบสอง อาทิตย์" หญิงสาวบอกบิดา คุณจักรชยี้เส้นผมอ่อนนุ่มดำขลับ ของลูกสาวด้วยความรัก "ตอนนี้พ่อยังไม่ได้ไปเลยนี่ พอยังอยู่" "พรุ่งนี้ก็ไปแล้ว" จอมจุรีพูดน้ำเสียงสั่นๆ น้ำตาคลอ คุณจักรเข้ามานั่ง ใกล้ๆลูกสาว "อย่าคิดมากเลยน่า พ่อจะรีบไปรีบกลับนะคนเก่งของ พ่อ อยู่ทางนี้ทำตัวเป็นเด็กดี เตรียมหาเมนูอาหารเด็ดๆไว้ให้ พ่อทาน" หญิงสาวยิ้มให้บิดา ไม่รู้จะพูดอะไรออกมาอีก และ พอใจที่พ่อชอบรสมือในการทำอาหารของเธอ จอมจุรีต่างกับผู้หญิงวัยเดียวกัน ที่ชอบคิดดันรายการ อาหาร มากกว่าไปเดินซ้อปปิ้งตามศูนย์การค ทั้งที่ฐานะการ เงินเอื้ออำนวยเป็นอย่างมาก"พ่อคะ โทรมาหาจอมบ่อยๆนะคะ" จอมจุรียังคงอ้อนบิดาเหมือนเดิม "พ่อก็ต้องโทรอยู่แล้ว จอมจ้ำ ลูกยังอ้อนเป็นเด็กๆ อยู่เลยนะ ทั้งที่ลูกเป็นสาวแล้วรู้ไหม" บิดาท้วงติง หญิงสาวกอดรัดบิดาแน่นขึ้น "แต่จอมคิดว่าตัวเองยังเป็นเด็กๆอยู่เลยค่ะพ่อ" หนุ่มใหญ่เอ็นดูลูกสาวสุดสวาทมาก ถึงกับขยี้ผมแรงๆ จนผมสลวยยุ่งเหยิง สองพ่อลูกหัวเราะใส่กัน เป็นความรัก ความอบอุ่นที่พ่อลูกมีให้ซึ่งกันและกัน คุณจักรเดินทางไปติดต่องานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่นั่นเขาได้พบกับเพียงพร ม่ายสาววัยเดียวกัน แต่มีลูกสาว อายุ 21 ปี ชื่อเพ็ญโฉม เพียงพรกำลังถังแตก เธอกับสามีทำตัวเป็นโรบินฮู้ด แอบเข้ามาทำงานที่นี่ เพราะต้องหลบๆซ่อนๆ ทำให้ไม่มีเงิน สามี ทนไม่ไหว ขอเลิกกับเธอ เพียงพรจึงอาศัยอยู่กับญาติที่ทำร้าน อาหาร โดยมีเพ็ญโฉมผู้เป็นลูกสาวมาช่วยงานอีกคน"แม่... ผู้ชายคนนั้นหน้าตาหล่อจังเลย ท่าทางมีอายุ แล้ว แต่ยังดูดีอยู่เลยนะ" เพ็ญโฉมกระซิบบอกมารดา เพียงพรชะเง้อมอง เธอ กระชับเสื้อรัดรูปให้เข้าที่ แล้วรีบกระชากถาดอาหารจากมือลูก สาวไปถือเอง "อะไรแม่ เพ็ญจะไปเสิร์ฟโต๊ะคุณรูปหล่อคนนั้นเอง" "ไม่ต้อง แม่เสิร์ฟเอง ถ้าเพ็ญอยากมีชีวิตที่สบาย จง เชื่อแม่" ลูกสาวงงในคำพูดของมารดา "มันเกี่ยวอะไรกับการเสิร์ฟอาหารให้กับเขาล่ะ" "เออน่ะ... เฉยๆไว้ ไปทำงานในครัวต่อ" พูดจบ เพียงพรก็ประคองถาดอาหารตรงไปที่โต๊ะของ คุณจักร หนุ่มใหญ่ยิ้มให้ ม่ายสาวสะอึ้งกายนั่งลงข้างๆ "สวัสดีค่ะ ร้านรสสุคนธ์ยินดีต้อนรับค่ะ" เพียงพรทำตัวเหมือนกับเป็นเจ้าของร้น หนุ่มใหญ่ก็ คิดเช่นนั้นเหมือนกัน "ผมมาทานอาหารที่นี่บ่อยๆ ไม่ค่อยเห็นคุณเลย" ม่ายสาวยิ้ม พยายามทำตัวให้เขาคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของร้านและมีธุรกิจมากมาย "พรมีงานเยอะค่ะ ต้องวิ่งรอกที่โน่นที่นี่ วันนี้เพิ่งว่าง มาดูร้าน ปกติให้ญติๆช่วยดูแลให้ค่ะ เป็นไงคะอาหารที่นี่" ม่ายสาวชะโงกหน้าเข้าใกล้ หนุ่มใหญ่ถึงกับสะดุ้ง "ครับ อาหารอร่อยดีครับ" เพียงพรตักอาหารใส่จานให้คุณจักร หนุ่มใหญ่กล่าว ขอบคุณ เธอลุกขึ้น แต่สายตาไม่วายชะม้ายมองฉ่ำเยิ้ม "มีอะไรก็เรียกพรได้เลยนะคะ หรือว่าเหงา ต้องการ เพื่อนคุย โทรหาพรได้ตลอดเวลา เราแลกเบอร์กันนะคะ" "ยินดีครับ" ทั้งสองแลกเบอร์กันเสร็จ ม่ายสาวก็ขอตัวเดินจากไป คุณจักรก้มหน้าทานอาหารเพียงอย่างเดียว ไม่ได้คิด อะไรเกี่ยวกับเพียงพรอีก เพ็ญโฉมซึ่งว่างจากงานทีร้น เธอเตร์ไปที่สวนสาธาร ณะ หวังจะเจอผู้ชายไทยสักคน เธอเพียรมาที่นี่เกือบเดือน ที่สุดได้เจอหนุ่มไทยหน้าตาดีกำลังนั่งอ่านหนังสือสารคดีไทยหญิงสาวรีบเข้าไปทักทันท "สวัสดีค่ะ คุณเป็นคนไทยหรือเปล่าคะ" ชายหนุ่มผู้นั้นเงยหน้าขึ้นมอง "สวัสดีครับ ผมคนไทย ชื่อรัชพลครับ เรียกสั้นๆว่า ผลก็ได้" หญิงสาวเข้าไปนั่งใกล้ๆ "ฉันชื่อเพ็ญโฉม เรียกสั้นๆว่าโฉมก็ได้ค่ะ ดีใจจังเลย ที่เจอคนไทยด้วยกัน โฉมทำร้านอาหารไทยที่ร้านตรงถนนโน้น คะ" เพ็ญโฉมพูดจาฉะฉาน รัชผลชอบใจที่หล่อนเป็นผู้ หญิงที่กล้าพูด กล้ทำ แต่เรื่องคิดแบบชู้สาวไม่มี "ผมมาเรียนที่นี่ครับ ปีนี้ก็จบแล้ว ยินดีครับที่ได้เป็น เพื่อนกับคุณ เมื่อไหร่คุณโฉมจะกลับเมืองไทยล่ะครับ" รัชผลปิดหนังสือที่กำลังอ่าน แล้วถามเรื่องกลับเมือง ไทย เพ็ญโฉมยังมองไม่เห็นหนทางที่จะกลับเมืองไทย เพราะ เงินไม่มี แต่พูดโอ่ไปตามเรื่อง "ช่วงนี้คงต้องรอหน่อย ต้องช่วยทีร้นไปก่อนค่ะ แต่ โฉมเพิ่งจะกลับไปไม่นานนี่เอง กรุงเทพฯเปลี่ยนไปเยอะนะคะ"หญิงสาวจีบปากจีบคอพูด อยากจะสนใจเขาเหมือนกัน แต่ดูท่าทางรัชผลไม่มองเธอในแง่ชู้สาวเลย เธอจึงเปลี่ยนใจ เป็นคบกันแบบเพื่อน โดยแลกเบอร์โทรกัน จากวันที่ไปกินอาหารร้านรสสุคนธ์ คุณจักรถูกรุก หนักจากเพียงพร เธอโทรมาหาเขา และชวนไปเที่ยวที่โน่น ที่นี่ตลอด ม่ายสาวเอาใจเก่ง รู้จักพูด และยั่วยวน แม้อายุจะ เท่ากัน แต่ผู้หญิงคนนี้มีลูกเล่นแพรวพราว ทำเอาผู้ชายที่ห่าง เหินจากเพศตรงข้ามมานาน ถึงกับหวั่นไหวไปได้ คืนนี้เพียงพรพาหนุ่มใหญ่ไปนั่งที่ผับแห่งหนึ่ง ร้อย วันพันปีคุณจักรไม่เคยมาเที่ยวสถานที่แบบนี้เลย แน่นอนว่าผู้ ที่จ่ายคือเขา แต่เขาไม่สนใจ เขาสนใจบรรยากาศของที่นี่มากกว่า "ที่นี่ดีนะครับ" น้ำเสียงหนุ่มใหญ่บ่งบอกว่าชอบสถานที่นี้ เพียงพร พยักหน้า "ค่ะ ที่นี่บรรยากาศดีมาก พรจะสงวนเอาไว้ จะมาเฉพาะกับบุคคลสำคัญเท่านั้น" ม่ายสาวพูดพร้อมกับทำตาหวาน คุณจักรเริ่มใจสั่นๆ "ผมดีใจที่เป็นคนสำคัญของคุณครับ" ถึงขั้นนี้ไม่ต้องพูดมากแล้ว หญิงม่ายหัวใจเปลี่ยวยก มือกุมมือคุณจักรเอาไว้แน่น "พรดีใจที่เจอคุณ คุณเป็นผู้ชายคนแรก หลังจากที่ พรเลิกกับสามี พรรู้สึกอบอุ่น ขอบคุณสำหรับคืนวิเศษคืนนี้ค่ะ" "ผมก็เช่นกันครับ" หนุ่มใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น เข้าแผนของเพียงพร ที่จะเรียกจะแนนสงสาร "นานๆพรจะมีความสุขแบบนี้สักที ชีวิตของพรมีแต่ เรื่องเศร้า" ม่ายสาวพูดพร้อมกับบีบน้ำตา คุณจักรใจอ่อน โอบ กอดร่างอวบอั๋นเอาไว้ "ผมพอจะช่วยอะไรคุณได้บ้าง" เพียงพรชบหน้าลงกับอกกว้าง ไม่พูดอะไร แต่คะยั้น คะยอให้คุณจักรดื่มเบียร์กระทั่งเขาเริ่มเมา เธอจึงชวนกลับที่พัก "เดี๋ยวผมไปส่งคุณก่อน แล้วค่อยกลับดีกว่า"คุณจักรเป็นห่วงที่ผู้หญิงต้องเดินทางกลับที่พักเพียง ลำพัง "คิดหรือคะว่าพรจะกลับ" เพียงเท่านี้คุณจักรก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หนุ่มใหญ่พา ม่ายสาวไปที่โรงแรมที่เขาพัก เมื่อถึงห้องพัก คุณจักรคว้าร่วงอวบตึงเข้าห้อง ปิด ประตูทันที ร่างทั้งสองผวาเข้าหากัน คุณจักรประกบปากบดขยี้ริมฝีปากม่ายสาวแรงๆ เธอ ก็ตอบสนองรุนแรงไม่ต่างจากกัน ความกำซาบที่เกิดขึ้นทำให้ คุณจักรตื่นเต้นไม่น้อย เพราะห่างเหินเรื่องแบบนี้มานาน มือของหนุ่มใหญ่ไม่อยู่นิ่ง เขาบีบไปที่ทรวงอกของ เพียงพรอย่างมันส์มือ ความรู้สึกเขาบอกได้เลยว่าเป็นหน้าอก ที่ใหญ่และนุ่ม แต่ยังไม่เหลว ความหื่นในตัวยิ่งเพิ่มขึ้น สุดที่จะอดใจไหว คุณจักรล้วงมือเข้าไปจากชายเสื้อ แล้วลูบไล้ที่เนินอกของเธอแผ่วเบา สร้งความสยิวให้กับม่าย สาวจนขนแขนเธอลุกซู่ ยัง... ยังไม่หยุดแค่นั้น หนุ่มใหญ่ล้วงเข้าไปในยกทรง แล้วคลึงที่เต้า ก่อนบี้ที่เม็ดทับทิมบนยอดอกของเธอไปมาเพียงพรแทบหมดแรงยืน แต่เธอไม่ยอมแพ้ ประสบ การณ์ที่ผ่านมา ทำให้รู้ว่าควรทำอย่างไร มือเรียวคลำที่เป้ากาง เกงของคุณจักร แล้วบีบเบาๆ เป็นการกระตุ้น เมื่อถูกท้าทายอย่างนี้ มังกรที่หลับใหลอยู่กางเกงก็ ตื่นขึ้นมาทันที มันขยายตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนหนุ่มใหญ่รู้สึก อึดอัด ม่ายสาวรู้สึกพอใจที่เขามีอารมณ์เร็ว เธอรูดซิบกางเกง แล้วล้วงมือเข้าไป บีบที่มังกรตัวเขื่องที่ซุกตัวในปราการด่านสุด ท้าย แม้ว่ามือเธอจะอยู่นอกกางเกงใน แต่เธอก็รู้ส่วนปลายของ มันอยู่ตรงไหน ปลายนิ้วเรียวเขี่ยที่ส่วนปลายมังกรไปมา หนุ่มใหญ่ เสียวซ่านที่อวัยวะนั้นจนทนแทบไม่ไหว ยืนตัวเกร็ง บดริม ฝีปากให้หนักหน่วงยิ่งขึ้น การโต้ตอบของทั้งสองเป็นไปอย่างดุเดือด คุณจักร บีบที่เต้อย่างสนุกมือ ปากและลิ้นก็ทำหน้ที่อย่างถึงพริกถึงชิง ส่วนเพียงพรก็ไซลินเข้าไปแบบไม่ยอมแพ้ มือก็เขี่ยและคลึงที่ มังกรของเขา จนเธอรู้สึกว่ากางเกงในเขาเริ่มชื้นแฉะจากน้ำ หล่อลื่นถึงตรงนี้ อารมณ์ของทั้งสองสุดที่ะยั้งได้แล้ว คุณจักร ผละริมฝีปากออก แล้วกระซิบเบาๆที่ข้างหูมายสาว "ถอดเสื้อผ้าออกนะ เราจะมีความสุขกัน" เพียงพรยิ้มอายๆ ใช้จริตของมารยาหญิงเต็มที่ "ไม่ค่ะ พรอาย" "ไม่ต้องอายหรอก ผมจะรับผิดชอบคุณเอง ไม่ต้องห่วง ผมดูแลคุณได้" ความหื่นทำให้คุณจักรพูดออกมา แต่เขาก็ถูกใจเธอ ไม่น้อย คิดว่าอย่างน้อยเธออาจจะทำให้เขามีความกระชุ่มกระ ชวยในชีวิตขึ้นมาบ้าง "คุณพูดจริงหรือคะ คุณจักร" ม่ายสาวถามเพื่อความแน่ใจ "จริงสิครับ ผมเป็นคนพูดจริงทำจริง" "งั้นคุณหลับตาก่อน" "ได้ครับ" หนุ่มใหญ่แสร้งทำเป็นหลับตา แต่แอบปรือตาขึ้นมา เล็กน้อย เขาอยากเห็นเรือนร่างของม่ายสาวเต็มที่ เพราะเท่า ที่ได้สัมผัสหรวงอกของเธอ รู้เลยว่าเธอมีทรวงอกที่สวยงามเพียงพรค่อยๆถอดเสื้อและกระโปรงออก เหลือแต่ ชั้นใน รูปร่างของผู้หญิงอายุ 46 สวยงามไม่แพ้สาวๆ แม้ว่าจะ มีหน้าท้องเล็กน้อย แต่ก็ดูสวยงามสมวัย หน้าอกที่ค่อนข้งอวบใหญ่ที่เขาได้สัมผัสเมื่อสักครู่ แม้จะอยู่ในยกทรง แต่ก็ดูเต่งตึง ช่างยั่วกิเลสของหนุ่มใหญ่ได้ มากเหลือเกิน มองต่ำลงมา อวัยวะส่วนกลางของเธอมันโหนกนูนจน กางเกงในตัวจิ๋วแทบจะปิดไม่มิดช่วงขาเรียวของเธอก็ดูสวยได้รูป สมตามวัย 46 คุณจักรลอบมองรูปร่างของม่ายสาว แล้วแอบกลืน น้ำลายตัวเองดังเอื้อก เพียงพรมีรูปร่างที่สวยถูกใจเขามาก "ถึงตาคุณถอดบ้างแล้วค่ะ คุณจักร" เสียงของม่ายสาวดังขึ้น หนุ่มใหญ่ลืมตาขึ้นจ้องมอง เรือนร่างของเธออย่างเต็มตา "รูปร่างคุณสวยมากครับ คุณพร" "ฮุย อย่าจ้องนานสิคะ คุณจักรรีบถอดเสื้อผ้าของคุณ เถอะ พรก็อยากเห็นรูปร่างคุณเหมือนกัน" "ได้ครับ" เพียงพรค่อยๆถอดเสื้อและกระโปรงออก เหลือแต่ ชั้นใน รูปร่างของผู้หญิงอายุ 46 สวยงามไม่แพ้สาวๆ แม้ว่าจะ มีหน้าท้องเล็กน้อย แต่ก็ดูสวยงามสมวัย หน้าอกที่ค่อนข้างอวบใหญ่ที่เขาได้สัมผัสเมื่อสักครู่ แม้จะอยู่ในยกทรง แต่ก็ดูเต่งตึง ช่างยั่วกิเลสของหนุ่มใหญ่ได้ มากเหลือเกิน มองต่ำลงมา อวัยวะสนกลาของเธอมันโหนกนูนจน กางเกงในตัวจิ๋วแทบจะปิดไม่มิดช่วงขาเรียวของเธอก็ดูสวยได้รูป สมตามวัย 46 คุณจักรลอบมองรูปร่างของม่ายสาว แล้วแอบกลืน น้ำลายตัวเองดังเอี๊อก เพียงพรมีรูปร่างที่สวยถูกใจเขามาก "ถึงตาคุณถอดบ้างแล้วค่ะ คุณจักร" เสียงของม่ายสาวดังขึ้น หนุ่มใหญ่ลืมตาขึ้นจ้องมอง เรือนร่างของเธออย่างเต็มตา "รูปร่างคุณสวยมากครับ คุณพร" "อุ๊ย อย่าจ้องนานสิคะ คุณจักรรีบถอดเสื้อผ้าของคุณ เถอะ พรก็อยากเห็นรูปร่างคุณเหมือนกัน" "ได้ครับ"เพียงพรค่อยๆถอดเสื้อและกระโปรงออก เหลือแต่ ชั้นใน รูปร่างของผู้หญิงอายุ 46 สวยงามไม่แพ้สาวๆ แม้ว่าจะ มีหน้าท้องเล็กน้อย แต่ก็ดูสวยงามสมวัย หน้าอกที่ค่อนข้างอวบใหญ่ที่เขาได้สัมผัสเมื่อสักครู่ แม้จะอยู่ในยกทรง แต่ก็ดูเต่งตึง ช่างยั่วกิเลสของหนุ่มใหญ่ได้ มากเหลือเกิน มองต่ำลงมา อวัยวะสนกลาของเธอมันโหนกนูนจน กางเกงในตัวจิ๋วแทบจะปิดไม่มิดช่วงขาเรียวของเธอก็ดูสวยได้รูป สมตามวัย 46 คุณจักรลอบมองรูปร่างของม่ายสาว แล้วแอบกลืน น้ำลายตัวเองดังเอี๊อก เพียงพรมีรูปร่างที่สวยถูกใจเขามาก "ถึงตาคุณถอดบ้างแล้วค่ะ คุณจักร" เสียงของม่ายสาวดังขึ้น หนุ่มใหญ่ลืมตาขึ้นจ้องมอง เรือนร่างของเธออย่างเต็มตา "รูปร่างคุณสวยมากครับ คุณพร" "อุ๊ย อย่าจ้องนานสิคะ คุณจักรรีบถอดเสื้อผ้าของคุณ เถอะ พรก็อยากเห็นรูปร่างคุณเหมือนกัน" "ได้ครับ"หนุ่มใหญ่ตอบสั้นๆ แล้วปลดเข็มขัด ถอดกางเกงออก อย่างเชื่องช้า ม่ายสาวจ้องมองตาไม่กะพริบ นาที่ที่กางเกงขายาวหลุดออกจากร่าง เพ็ญพรถึงกับ ตาโต เอามือปิดปาก เพราะกางเกงในที่คุณจักรใส่อยู่ มันพอง โตจนแทบจะขาด "เป็นอะไรครับ ตกใจอะไร" หนุ่มใหญ่ถามด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นท่าทางของ เพียงพร "เอ่อ... เปล่าค่ะ เมื่อกี้ตอนพรจับ มันยังไม่ใหญ่ขนาด นี้เลย ทำไมถึงใหญ่จังคะ ไม่รู้พรจะรับไหวหรือเปล่า" "ไม่ใหญ่มากหรอกครับ รับรองว่าพรจะไม่เจ็บเลย ผม มีวิธีครับ" "แน่ใจนะคะ พรกลัว" ม่ายสาวพูดไปอย่างนั้นเอง ใจจริงแล้ว เธอชอบของ ใหญ่ๆ มันทำให้เธอถึงใจ แต่ต้องรักษาภาพพจน์ตัวเองไว้ "แน่ครับ ไม่ต้องกลัว... มา... เรามามีความสุขกัน" พูดจบคุณจักรเดินเข้าไปใกล้ๆมายสาว จมูกโด่งๆของหนุ่มใหญ่ซุกเข้าไปที่กลางร่องอกของเพียงพร พร้อมๆกับมือเอื้อมมาแกะตะขอยกทรงที่ด้านหลัง เมื่อยกทรงตัวสวยหลุดออก เต้าอวบใหญ่ก็เป็นอิสระ คุณจักรมองด้วยความชื่นชม อายุ 46 ไม่ทำให้เต้าเธอคล้อยต่ำ ลงเลย ตรงกันข้าม กลับอวบแน่น ชูชันเหมือนสาวรุ่น ตรงเม็ดทับทิมที่ยอดอก แม้สี่จะเข้มไปนิด ขนาดจะ ใหญ่ไปหน่อย แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความน่ามองและน่าดูด ไม่รอช้า หนุ่มใหญ่ก้มหน้าลงไปดูดด้วยความหิวกระ หาย อีกเต้าก็โดนมือใหญ่บีบเต็มมือ "รี๊ด... เบาๆหน่อยก็ได้ค่ะ" ม่ายสาวพูดพร้อมกับล้วงมือเข้าไปในกางเกงในของ คุณจักร เธอจับแก่นกายเขาเต็มมือ รับรู้ถึงความใหญ่โต และ ความแข็งแกร่ง แบบนี้แหละที่เธอต้องการ มือเรียวรูดกางเกงในเขาลงไปเล็กน้อย พอให้มังกร ใหญ่เป็นอิสระ เมื่อหลุดออกจากกางเกงใน มันดีดผลึงตั้งตระ หง่านอย่างท้าทาย เพียงเพ็ญเหลือบสายตามองแล้วยิ้มที่มุมปาก เลีย ริมฝีปากด้วยความอยากลอง ขณะที่คุณจักรกำลังสนุกอยู่กับทรวงอกอวบอิ่มของม่ายสาว มังกรใหญ่ก็ผงกหัวหงึกๆ เหมือนต้องการให้เพียงพร เล่นกับมันบ้าง ซึ่งเธอก็รู้งาน มือนิ่มๆคำที่ลำตัวของมัน แล้วรูดไปมา เรอรับรู้ถึง ความโอฬารของมัน กำแทบไม่รอบ ในชีวิตเธอไม่เคยเจอของ ใหญ่ขนาดนี้ เวลาโดนไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ใจหนึ่งก็กลัว แต่อีกใจหนึ่งก็อยากลอง คิดแล้วอยาก ให้เขาทำเร็วๆ จะได้รู้ซักที่ว่าจะมีความสุขขนาดไหน แล้วม่ายสาวก็ต้องสะดุ้งเพราะมือซุกซนของหนุ่มใหญ่ เลื่อนจากเต้าอวบ ลงมาล้วงเข้าไปในกางเกงในของเธอบ้าง เขา ลูบคลำเต่าตัวใหญ่ไปมา ก่อนจะแหย่นิ้วเข้าไปในปากถ้ำของ เธอเบาๆ "ฮุย อย่าเพิ่งค่ะ ของพรแฉะหมดแล้ว" ไม่ต้องบอกก็รู้ นิ้วคุณจักรเปียกชุ่มไปด้วยน้ำหล่อลื่น ของของม่ายสาว ซึ่งตอนนี้เธอมีอารมณ์มาก น้ำของเธอจึงออก มามากเป็นธรรมดา "ผมว่าเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า" "จะดีหรือคะ" เพียงพรยังไว้ฟอร์ม ไม่อยากให้เขามองว่าเธอร่าน ทั้งที่ตอนนี้เธอเองก็อยากจนตัวสั่น "ดีสิครับ ด้วยเกียรติของลูกผู้ชายอย่างผม ผมสัญญา ว่าจะดูแลคุณตลอดไป" "ค่ะ พรเชื่อคุณค่ะ" ม่ายสาวยิ้มหวานให้เขา ในใจเธอคิดว่า ต่อไปนี้เธอจะ ไม่ต้องลำบากแล้ว จะต้องปรนนิบัติเขาให้ดีที่สุด มือนิ่มรูดกางเกงในของเขาที่คาอยู่ ออกจากปลายเท้า แล้วถอดกางเกงในของตัวเองออก ก่อนจะเดินคู่กันมาที่เตียง นอน เมื่อมาถึงเตียง เพียงพรผลักเบาๆให้หนุ่มใหญ่นอน หงาย เธอตามขึ้นมาคุกเขาที่ปลายเท้าเขา มือจับมังกรใหญ่ที่ ยังคงแข็งแกร่งชูชันไม่ยอมลงไว้ แล้วรูดขึ้นลงช้าๆ "คุณทำให้ผมมีความสุขมาก" "ค่ะ พรจะทำให้คุณจักรมีความสุขมากที่สุด เท่าที่พร จะทำได้" พูดจบมายสาวก็ก้มหน้าลงมา อ้าปากกว้าง แล้วครอบ ไปที่ส่วนปลายของหัวมังกร ใช้ลิ้นแตะๆบริเวณส่วนปลายนั้น เพียงแค่นี้คุณจักรก็ถึงกับทำปากจู๋ด้วยความเสียวซ่านจนสุดจะทนได้ "ดีครับ ผมมีความสุขจัง" ม่ายสาวยังคงโชว์ลวดลายต่อ ด้วยการเม้มริมฝีปาก ที่ลำตัวของมังกร แล้วรูดขึ้นรูดลง มือของเธอก็ลูบไล้ไปที่ลูก ปิงปองสองลูกของเขาไปมา "โอย... เยี่ยมจริงๆ คุณพร" เสียงของคุณจักรเต็มไปด้วยความสุข เพียงพรรู้สึก พอใจที่ทำให้เขามีความสุข เพราะถ้เขาติดใจเธอจริงๆ เธอและ ลูกก็จะสบายไปตลอดชีวิต ริมฝีปากสวยรูดมังกรขึ้นลงอยู่นาน จนตอนนี้เธอเริ่ม เมื่อยปาก เพราะของเขาทั้งยาวทั้งใหญ่ เธอจึงหยุด แล้วเปลี่ยน มาเป็นใช้ลิ้นตวัดไปรอบๆส่วนหัวของมัน หนุ่มใหญ่ได้แต่นอนตัวเกร็งเพราะความเสียวซ่าน เขา เผลอตัวแอ่นสะโพกขึ้น อาการอย่างนี้เพียงพรรู้ได้ทันทีว่าตอน นี้เขามีความต้องการมาก โดยไม่รอช เธอลุกขึ้นมานั่งคร่อมที่ส่วนกลางลำตัว เขาทันที โดยจับมังกรยักษ์เข้าสู่ปากถ้ำที่แฉะไปด้วยน้ำหล่อ ลื่นของเธอทันทีที่มังกรยักษ์เข้าไปในถ้ำ ทั้งเขาและเธอต่างรู้สึก ถึงความแน่นที่อวัยวะส่วนนั้นทันที "อูย... ทำไมมันแน่นจัง" เสียงของม่ายสาวเปรยขึ้นเบาๆ พูดจบเธอค่อยๆขยับ สะโพกขึ้นลงข้ๆ ทั้งสองต่างรับรู้ถึงการเสียดสีของอวัยวะส่วน นั้น มันทั้งเสียวซนและรัญจวนใจอย่างบอกไม่ถูก "โอย... ผมมีความสุขเหลือเกินครับคุณพร" หนุ่มใหญ่อดที่จะครางไม่ได้ เขาไม่ได้เจอเรื่องแบบนี้ มานาน จึงมีความสุขมากเป็นทวีคูณ สองมือของเขาเอื้อมมา บีบที่ทรวงอกอวบใหญ่ของเธออย่างเมามันล เมื่อเห็นว่าน้ำหล่อลื่นของมังกรยักษ์ออกมาพอสมควร แล้ว ม่ายสาวผู้ชำนาญอย่างเพียงพรไม่รอช้า ขยับสะโพกขึ้น ลงให้เร็วขึ้นที่ละนิด แต่สม่ำเสมอ ความสุขแบบนี้เพียงพรไม่เคยเจอมาก่อน เธอเพิ่งรู้ว่า การได้ทำกับของใหญ่ๆ มันสร้างความสุขให้เธอได้มากเหลือเกิน เธอจึงตักตวงความสุขนี้อย่างเต็มที่ คุณจักรเองก็เช่นกัน เจอลีลาของม่ายสาวแบบนี้ รู้สึก ติดอกติดใจเป็นอย่างมาก บวกกับภายในของเธอมันกระชับ และอุ่นๆ ช่วยให้มังกรของเขามีความสุขจนแทบจะสำลักออกมา "โอย... ทำไปเรื่อยๆนะ คุณพร... อา..." เสียงกระเส่าของหนุ่มใหญ่ทำให้ม่ายสาวยิ้มอย่างพอใจ เธอเชื่อว่าเขาต้องติดใจเธอ และเลี้ยงดูเธอเป็นอย่างดีแน่นอน ได้ทั้งความสุข ได้ทั้งเงินทอง โชคดีจริงๆที่ได้เจอเขา แรงขย่มของเธอเร็วขึ้นเรื่อยๆคุณจักรก็ไม่ยอมแพ้ เดัง สะโพกรับเพิ่มการเสียดสีขึ้นไปอีก ทั้งสองต่างอัดอวัยวะส่วน กลางลำตัวใส่กันอย่างไม่ยั้ง จนเวลาผ่านไปนานพอสมควร ม่ายสาวเริ่มเมื่อย จึง ลงไปนอนหงายอยู่ข้างกายคุณจักร เสียงหายใจแรงๆทำให้หนุ่ม ใหญ่รู้ว่าเธอเหนื่อย "พักก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวต่อไปผมแสดงฝีมือเอง" "ค่ะ พรทั้งเหนื่อย ทั้งมีความสุข" ม่ายสาวพูดพร้อมกับหอมแก้มคุณจักรเบาๆ เวลาผ่านไป 2 นาที หนุ่มใหญ่เห็นว่าเพียงพรหาย เหนื่อยแล้ว จึงพลิกตัวนอนทับร่างของม่ายสาว แล้วจับเจ้า มังกรยักษ์ใส่เข้าไปในถ้ำของเธอช้ๆ ม่ายสาวอ้ขาออกให้กว้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะขนาดมันใหญ่มาก ถ้าอ้าขาไม่กว้าง อาจทำให้เธอเจ็บได้ เมื่อมังกรยักษ์เข้าไปจนสุด สะโพกหนุ่มใหญ่ก็เริ่ม ทำงาน มันขยับขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ จากช้าก็ค่อยๆเร็วขึ้น เรื่อยๆ ความเสียวซ่านก็เพิ่มขึ้นตามแรงเสียดสี "อูย... คุณจักร พร... พรจะไม่ไหวแล้วนะ..." หนุ่มใหญ่ไม่ตอบ ตั้งหน้าตั้งตโยกสะโพกขึ้นลงไป เรื่อยๆ เขาไม่รีบร้อน นานๆจะได้ทำแบบนี้ซักที จึงอยากมี ความสุขแบบนี้นานๆ เพียงพรพยายามอดกลั้นเต็มที่ อยากเสร็จพร้อมเขา จะได้มีความรู้สึกที่ดี "โอย... วิเศษจริงๆ คุณจักร.... อา..." เสียงครางของม่ายสาวทำให้หนุ่มใหญ่รู้สึกภูมิใจ ที ทำให้ผู้หญิงมีความสุขได้ เขาเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นอีก เพื่อสร้าง ความเสียวซ่านให้เพิ่มขึ้น ถึงตรงนี้เพียงพรสุดจะกลั้นแล้ว เธอเสียวซ่านเกิน กว่าที่จะอดกลั้นได้ จึงเกร็งตัว กอดเขาแน่น แล้วเด้งสะโพก ขึ้นอัดกับเขาแรงๆ ไม่กี่ทีเธอก็ถึงสวรรค์ "โอ๊ย... ไม่ไหวแล้ว พร... พรเสร็จแล้ว"