สมดุลที่รู้คุณค่า(สวิงกิ้ง)

เรื่องของผมนี้...ขอยืนยันว่าผมเข้าใจในอุดมการณ์ สานฝันให้กับคนกลุ่มหนึ่งที่เหมือนอยู่ในโลกสีชมพูแต่อมดำ ที่ไม่มีวันจะกระจ่างสดใส มีเฮียคนเดียวเท่านั้นจะซักฟอกให้เป็นสีชมพูสดใสที่ปราศจากสีดำ และเมื่อมีโอกาสจึงขอร่วมเสนอบทความจากประสบการณ์อันตื่นเต้น ที่ไม่คิดว่าตนเองจะได้ถึงจุดนี้นะครับ ผมเรียนหนังสือไม่สูง เป็นคน ต.จ.ว. และมาทำงานที่กรุงเทพฯและเชื่อไหมครับ ผมเคยได้อ่านและรับรู้เรื่องราวของความสมดุลจากหนังสือเฮียมาตลอด ก็มีใจมีไฟอยู่เป็นทุน เคยพูดและเล่าเรื่องนี้ให้เมียฟังบ่อยๆ ก็ได้แต่พูดคุยกัน เมียก็ได้แต่อมยิ้ม เพราะคิดว่ามันจะเป็นจริงไปไม่ได้ ก็ไม่ขัดใจอะไรผม แต่เมียเคยบอกว่าพอผมได้คุยเรื่องนี้ทีไร ผมเก่ง ผมอึด ผมมีแรงมากทุกทีก็ดีหลายๆ เธอพูกอย่างนี้จริงๆ วันเวลาก็ผ่านมาอย่างปกติ และเรื่องก็เกิดมาเจอะเจอกับความสมดุลเข้าจนได้กับเฮียที่เป็นเจ้าของโรงงาน ที่ผมเป็นช่างอยู่แต่ผมไม่ขอบอกโรงงาน สถานที่อยู่นะครับ เดี๋ยวจะเสียหาย เพราะเฮียเจ้าของโรงงานเป็นผู้มีพระคุณกับผมมาก ได้ให้ความกรุณาหลายๆ อย่างกับที่บ้านผม ผมอายุ 28 ปี เมียผมอายุ 24 ปี อยู่กินกันมาหลายปีแต่ไม่มีลูกเพราะเมียผมเป็นหมัน รู้มาจากโรงพยาบาล เมียผมเป็นคนภาคกลาง รูปร่างหุ่นดีเพราะมีคนชม ความสวยพอเดินสยามได้ไม่อาย ผิวสีแทน แต่นิสัยไม่ใช่ 11 ร.ด. เป็นคนเก็บตัว ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใครนอกบ้าน เมียทำงานที่เดียวกับผมแต่อยู่คนละแผนก แต่ผมกับติ๋ม (ชื่อเมีย) มักจะแอบฝันถึงอนาคตที่เราจะต้องมีฐานะ และมีอะไรเหมือนคนอื่นที่มี เราต่อสู้สร้างชีวิต สร้างความฝันอย่างจริงจัง เฮียเว้ง (สมมุติ) เจ้าของโรงงานอายุ 40 เศษ อาซ้อเมียเฮียอายุ 30 กว่า นิสัยดีมากทั้งคู่ ซ้อไม่ได้ทำอะไรดูแลเรื่องบัญชีอย่างเดียว สิ่งที่ผมไม่เคยคิดในเรื่องความสมดุล ก็ได้เกิดขึ้นอย่างเหลือเชื่อ เมื่อเฮียเว้งผู้เป็นทั้งเจ้านาย แกมีฐานะร่ำรวย และสูงศักดิ์กว่าผมจะมาชักชวนผมได้ ก็เมื่อสงกานต์ที่ผ่านมาคนงานกลับบ้านกันหมด แต่ผมกับติ๋ม เพิ่งกลับมาหมาดๆ ก็ไม่กลับเบื่อเบียดคนอยู่พักผ่อนที่ห้องพักเฝ้าโรงงานดีกว่า เฮียกับซ้อก็ไม่ได้ไปไหน ผมชวนติ๋มเที่ยวถนนข้าวสารกลับเข้าซอยก็เจอน้ำอีกเปียกปอนไปหมด โดยเฉพาะกับติ๋มเปียกโชก ส่งผลให้เห็นหน้าอกติ๋มชัดเจน และใหญ่มากต้องกอดอกบังไว้ อายคนมอง พอเข้าโรงงานก็เจอเฮียพอดี เฮียดูตกตะลึงจ้องมองติ๋มตรงหน้าอกอย่าง ลืมตัว ติ๋มเองก็ลืมปิดอก เฮียขอเล่นสงกานต์กับผมและติ๋ม ด้วย ส่วนซ้ออยู่ห่างๆ ส่งเสียงเชียร์ ทีแรกคิดว่าคงเดี๋ยวเดียวแต่ที่ไหนได้เป็นชั่วโมง โดยเฉพาะเฮียดูจะนัวเนียกับติ๋มเมียผมสาดเอาสาดเอา ติ๋มก็ลืมตัวต่อสู้อกเลยอวดโชว์อย่างอลังการ ก็เล่นกัน 3 คนเลยไม่ได้คิดอะไรจนลูกหลานเฮียมาร่วมด้วยจนมั่วไปหมด สาดน้ำกันถึงค่ำจึงเลิก แต่เฮียได้สั่งผมก่อนขอตัวเลิกเล่น “ว่างไหมวันนี้ ถ้าว่างมาหาเฮียและซ้อด้วย ที่ตึกใหญ่นะ” ผมรับปากเฮียไป พอเปลี่ยนชุดใหม่ก็พาติ๋มไปหาที่ตึกของเฮีย ติ๋มออกจะเกร็งบอกกลัวยังไงพิกล แต่ผมบอกกลัวอะไรในเมื่อผมอยู่ด้วย พอไปถึงเจอเฮียก็เอาสร้อยมาให้ผมกับติ๋มคนละเส้น แล้วบอกให้เป็นของขวัญ เป็นสร้อยคอทองหนัก 50 สตางค์ แถมสั่งไม่ต้องไปเล่าให้ใครฟัง เพราะเกรงอิจฉากันขึ้นเดี๋ยวงานจะไม่เดิน จากนั้นเฮียก็ชวนดื่มกัน เฮียจัดเลี้ยงบอกผมกับติ๋มทำตัวตามสบาย แล้วกล่าวยกย่องผมกับติ๋ม ว่าอยู่ทำงานได้นาน ขยัน และมีอนาคตจะส่งเสริมและขึ้นเงินเดือนให้ ผมกับติ๋มก็ดีใจยกมือไหว้อย่างสำนึก จากนั้นเฮียก็ชวนผมกับติ๋ม ร้องเพลงคาราโอเกะที่ในห้องของแกตึกใหญ่ ผมไม่เคยเจอเช่นนี้เคยเจอแต่หยอดเหรียญ เสียงดีจอใหญ่มาก ผมกับติ๋มไม่กล้าร้อง ตื่นเต้น เฮียเลยร้องโชว์ก่อน ทั้งลูกทุ่ง,ลูกกรุง ครู่เดียวซ้อก็เข้ามาสมทบและมาชวน ติ๋มร้องเลยค่อยกล้า พุ่งดวงตามถนัดกันจนดึก 5 ทุ่มได้ เฮียสะกิดให้ผมออกไปคุยกันส่วนตัว ปล่อยให้ซ้อกับติ๋มอยู่ร้องเพลงกัน และคำพูดแรกที่เฮียพูดกับผม ผมแทบไม่เชื่อหูเลยว่า “รู้เรื่องแลกคู่สวิงกิ้งดีใช่มั้ย เพราะรู้ว่าอ่านหนังสือเฮียกังฟู เฮียชอบนะแต่เรื่องนี้มันเป็นความลับที่บอกใครไม่ได้” ผมพยักหน้ารับรู้ก็สำนึกอยู่ว่า “เฮียเอื้อเฟื้อบ้านผมตลอดจนญาติๆ ผมลำบากมาจากบ้านนอกเฮียก็ช่วยทุกครั้ง เอาผ้าป่าไปทอด ผมพลอยมีชื่อเสียงไปด้วย” “แล้วอเนก (ชื่อผม) ซ้อเขาอยากจะขอนอนกับอเนก” ผมหูอื้อเลย เฮียก็ย้ำอีกเมื่อผมตื่นตะลึง ตัวแข็ง “นี่เป็นความจริง อเนกก็เป็นคนรักงาน เป็นคนดีขยันและมีอนาคต ซ้อกับเฮียก็วางใจ แล้วขอโทษที่เฮียก็ชอบติ๋มเมียผม ที่อกใหญ่ในฝันเลย อเนกจะรังเกียจมั้ย” ผมไม่รู้จะพูดอย่างไรตีบตันไปหมด แต่เมื่อนึกถึงอนาคตและโอกาสจังหวะ โดยเฉพาะอาซ้อ ผมเคยแอบคิดเพ้อฝันอาซ้อบ่อย เพราะซ้อแกผู้ดีมีความรู้สูงศักดิ์มากไม่คิดว่าเฮียจะมาชวน โอ้...ฝันที่เป็นจริงได้ ผมก็หลุดปากออกไป “ก็สุดแต่เฮีย ถ้าเฮียไม่รัง เกียจคนต่ำต้อยอย่างผมและติ๋ม” เฮียก็ดุผมทำไมต้องไปพูดว่าตัวเองต่ำต้อยเช่นนี้ด้วย มันไม่ดีเพราะเป็นคนต้องเสมอภาคกัน เฮียตบไหลผมเบา ๆ แต่พอจะเดินเข้าข้างในผมก็บอกกับเฮีย “ไม่รู้ว่าติ๋มจะคิดยังไง ยอมหรือไม่ยอม แล้วถ้าผมได้นอนกับซ้อ แต่ติ๋มไม่ได้นอนกับเฮียล่ะ เฮียจะว่ายังไง ถ้าเป็นเช่นนี้ผมคงไม่ยุ่งนะครับ” เฮียเงียบ แล้วตบไหลผม “พูดอย่างนี้แสดงว่าผมเป็นคนดีจริง ไม่เห็นแก่ได้” แต่เฮียก็บอกว่า ตอนนี้ซ้อก็คงพูดกับติ๋มเมียผมอยู่แล้วล่ะ คิดว่าคงไม่มีปัญหาซ้อพูดเก่งและจริงใจ ให้ความรักกับติ๋มมาตลอดจนคนในโรงงานรู้ว่า ติ๋มเมียผมคือคนสนิทของซ้อเลยพูดเสนออะไรก็ติด ผิดกับคนอื่นไม่เห็นด้วยทุกครั้ง นี่เองที่ดูเฮียมั่นใจซ้อจะโน้มน้าวติ๋มเห็นดีด้วย เฮียชวนผมเดินไปดูห้องนอนเฮียปล่อยให้ซ้อพูดกับติ๋มอีกสักพัก ห้องนอนเฮียตกแต่งเสียสวยหรูและเปิดวีดีโอดูอะไรนั่นเป็นภาพซ้อเปลือย และมีภาพระหว่างเฮียกับซ้อเอาหน้าท้องทะเลาะกัน แขนกับขาก็ตบตีกัน หักแข้งหักขากัน อย่างเอาเป็นเอาตาย เฮียวิจารณ์สรีระอวัยวะซ้อแล้วหันมาถามผมว่าติ๋มเป็นยังไง ผมก็อธิบายบอกตามความจริงโดยเฉพาะที่เฮียอยากรู้ ผมบอกเกลี้ยงเกลาแทบไม่มีเลยเตียนโล่งเฮียถึงโพล่งอย่างตื่นเต้นสุดยอดที่เคยใฝ่ฝันเลย เฮียคงชอบสะอาดสะอ้านแต่ผมชอบที่แหวกพงหญ้าก็สมอยากต่อกัน เมื่อที่ผมดูวีดีโอซ้อมีให้ผมแหวกแน่นอนนี่แหละคือความไม่สมดุล มันเกิดขึ้นแต่เราไม่รู้ตัวกันจนซ้อมาเรียกพอเห็นภาพในจอซ้ออายหน้าแดงบอกให้ปิดก่อน เฮียถามถึงติ๋มซ้อบอกให้ไปดูเองที่ห้องคาราโอเกะ ส่วนผมเฮียบอกไม่ต้องลงไปให้อยู่ดูวีดีโอกับซ้อข้างบนเลย ส่วนเฮียจะลงไปที่ห้องคาราโอเกะที่ติ๋มอยู่ พออยู่กัน 2 ต่อ 2 ผมถามซ้อว่า “รังเกียจผมหรือเปล่า” ซ้อว่า “ถ้าคิดจะให้นั่งอยู่นี่หรือ” ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงต่อเงียบกันไปสักพักซ้อก็ลุกบอกห้ามผมแอบดู ซ้อเปลี่ยนเป็นชุดนอนสวยมากแต่เบาบางจนเห็นอะไรรำไรไปหมดแล้วเรียกผมไปนวดให้หน่อยบอกว่าเมื่อยเล่นน้ำสงกรานต์มากไป แล้วความฝันที่ผมเคยใฝ่เคยหลับตานึกวาดมโนภาพเรือนร่างซ้อเปลือยกายก็เกิดขึ้นจริง ซ้อนอนคว่ำหน้าผิวนิ่มมือมากๆ กลิ่นน้ำหอมก็หอมจนใจเคลิ้มโชยออกมาจากตัวซ้อตลอด และการพลิกตัวรวดเร็วของซ้อเองกับชันเข่าทั้งสองข้างทำให้ชุดนอนบางเบาไหลมา กองที่ท้องน้อย “นวดขาให้หน่อย เมื่อย” ซ้อสั่งผมก็เอามือลอดหว่างขาเข้าไปหว่างขาเปลือยเปล่าเนื้อชัดๆ เต็มตาไม่มีกางเกงใน ก็คิดวาดมโนภาพเอาเองว่าสภาพชันเข่าแล้วอ้าจะเห็นอะไรบ้าง ส่วนผมไม่ต้องพูดถึงใจเต้นโครมคราม เพราะความขาวที่มีดำแซมเป็นที่มันช่างเร้าใจเสียจริง ๆ ผมลืมตัววางมือบีบนวดลูบคลำไปตามใจปรารถนาซ้อสั่งผมไม่ได้แล้ว และเมื่อซ้อดูจะล่องลอยตมมือผมก็โน้มคอผมฟุบลงตรงหว่างเข่า ไม่ต้องอธิบายกลิ่นสบู่หอมและความสดที่ผมต้องการก็ตะกละและตะกุยตะกายจนเลอะเปรอะเปียกหน้า สุดท้ายผมก็ทาบร่างตามที่ซ้อสั่งเมื่อซ้อบอกว่า “ทำได้แล้ว” ผมเหมือนฝันแต่รู้ว่ามันคือความจริง ผมจัดการอย่างถนัดถนี่และเต็มที่ซ้อเองก็สู้ไม่ถอยแถมอึดและอึดอีกต่างหากกว่าจะจบเล่นเอาหมดแรงอย่างเสียดาย สำหรับผมไม่อยากจะเลิกแต่ซ้อคงอิ่มลุกอาบน้ำแต่งตัว บอกให้ผมอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมาชั้นล่างห้องคาราโอเกะปิดล็อค ผมก็ไม่ไปรบกวนซ้อบอกให้ผมกับไปรอที่ห้องเดียวติ๋มเสร็จคงตามไปไม่ต้องห่วงซ้อจะดูแลเองผมก็กลับมารอที่ห้อง ครู่ใหญ่ติ๋มก็กลับมาผมก็กอดติ๋ม อย่างรักและมีความหวงห่วงมากกว่าเก่าถามอะไรก็ไม่ยอมพูด ผมเลยถามถึงความดีมีความสุขกี่ครั้งติ๋มทำนิ้ว 3 นิ้วแทนคำพูดกับอีก 1 นิ้วชี้ที่ร่องอก ตั้งแต่นั้นมาผมกับติ๋มและเฮียกับซ้อมักจะออกไปเที่ยวข้างนอกด้วยกันในวันหยุดและจบที่โรงแรม เราเข้ากันได้อย่างดี ทุกวันนี้ผมเป็นผู้จัดการแล้ว ติ๋มก็เป็นเลขาซ้อทุกคนไม่รู้อะไรได้แต่อิจฉาผมกับติ๋มกันเพราะเฮียซื้อรถเก๋งให้ผมขับ บอกจะได้สมฐานะผู้จัดการ เรามีเงินเดือนสูงมีเงินเก็บกันมาก เพราะเฮียกับซ้อเกื้อหนุน นี่คือผลดีแห่งความสมดุลที่รู้จักใช้มันอย่างมีคุณค่าครับ